มันไม่ใช่แค่คนที่มีพรสวรรค์หรอกนะที่จะประสบ
ความสำเร็จในชีวิต… แต่มันเป็นเรื่องของคน
ที่หิวกระหายความสำเร็จมากกว่าต่างหาก
เพราะคนที่กระหายความสำเร็จจะทำทุกอย่าง
เพื่อให้ได้รางวัลมาครอง
เคยอ่านนิทานกระต่ายกับเต่าใช่มั้ยครับ
กระต่ายมีพรสวรรค์เรื่องวิ่ง เมื่อเทียบกับเต่า
แล้วมันคนละชั้น แต่สิ่งที่ทั้งสองมีต่างกันในการแข่งขันครั้งนั้นคือความกระหายในความสำเร็จ ซึ่งเจ้าเต่ามีเต็มร้อย แม้ไร้พรสวรรค์แต่ปั่นไม่หยุด ตรงกันข้ามกับกระต่ายที่ได้เปรียบทุกประตูแต่ดันหลุดโฟกัส จนแพ้ไปอย่างน่าเจ็บใจ
แต่พูดไปใช่ว่าทุกคนจะเข้าใจนะครับ
วันนึงเต่าอาจจะบอกว่า”อย่าให้มาวิ่งแข่งอีกเลย
ขออยู่ในแบบที่เคยเป็นเหอะ มีความสุขดี
อยู่แล้ว”
หรือกระต่ายคิดได้ “แพ้คราวนี้เป็นบทเรียน
จากนี้ไปแค่ไม่หยุดวิ่ง ยังไงก็ชนะเต่าล้าน
เปอร์เซ็นต์”
มันอาจลงเอยด้วยความสุขคนละแบบ
โดยที่ไม่ต้องแข่งขันแก่งแย่งรางวัลกัน
แต่ก็อย่างว่าแหล่ะครับ โลกแห่งการแข่งขัน
มันไม่ได้เคยหยุดหมุนเลย
หากกระต่ายต้องแข่งกับกระต่ายด้วยกัน
และเต่าต้องแข่งกับเต่าด้วยกัน
เป็นศึกแห่งสปีชีส์… มันจะดุเดือดขนาดไหน
ดังโลกธุรกิจและโลกแห่งความทำงานเช่นกัน
ใครที่หิว กระหายความสำเร็จมากกว่าย่อม
เดินหน้าลงทุนลงแรงมากกว่า มันไม่ใช่แค่โดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งเท่านั้น แต่ต้อง
ขึ้นแท่นผู้นำให้ได้เพื่อรักษาตำแหน่งอันดับต้น
คนที่มีพรสวรรค์ ไม่ว่าจะศาสตร์ใดก็ตาม
มีเป็นจำนวนไม่น้อยที่ต้องมาเป็นลูกจ้างของ
คนที่ไร้พรสวรรค์แต่กระหายความสำเร็จ
ส่วนคนที่มีพรสวรรค์อยู่แล้วแค่เติมความ
กระหายความสำเร็จเข้าไปสักนิดแล้วล่ะก็
ผมว่าอนาคตไกลเลยล่ะ
หิวข้าวก็ต้องไปศูนย์อาหาร
กระหายน้ำก็ต้องไปแหล่งที่มีน้ำดื่ม
แล้วหิว กระหายความสำเร็จล่ะ… ต้องไปที่ไหน
ลองใช้ใจและสมองตอบดู
จากนั้นก้าวเข้าไปเรียนรู้ซะ
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ