“ก่อนจะง่าย… มันก็ยากมาก่อนทั้งนั้น”
ส่วนจะง่ายเร็วหรือง่ายช้านั้น
มันอยู่ที่การโฟกัส ทุ่มเทและให้เวลากับมัน
ไม่มีใครเกิดมาแล้วเดินได้เลยทันที
เราต้องหัดคลาน หัดตั้งไข่ ล้มลุกตั้งหลายครั้ง
กว่าจะบวกลบคูณหารเป็น
ก็ต้องทำการบ้านไม่รู้กี่ครั้ง สอบไม่รู้กี่หนจึงผ่าน
รู้อะไรมั้ยครับ…?
มันมีกุญแจสำคัญอีกข้อที่ทำให้เราบรรลุ
เป้าหมายได้ นั่นคือ สภาพจิตใจเราเอง
ก็การจะทำอะไรจากยากให้เป็นง่ายนั้น
มันคือการฝึกล้วน ๆ ซึ่งมักมาพร้อมความกดดัน
ความเครียด ความคิดด้านลบที่ฉุดรั้งให้เรา
อยากจะล้มเลิกทุกวินาที
แต่เชื่อหรือไม่ครับ นักกีฬาระดับโลกหลายคน
เช่น โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อดีตแชมป์โลกเทนนิส
หลายสมัยก็เคยให้ข้อคิดว่า ทุกคนเคยรู้สึก
แบบนี้กันทั้งนั้น แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขา
กลับมาได้และยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์
หรือเส้นทางสู่ความสำเร็จนั่นคือ มีสติ
รู้ทันความคิด ไม่ต่อต้าน แต่ยอมรับมัน
เมื่อเรารู้ว่าปัจจุบันกำหนดอนาคต
เราจะไม่ยอมแพ้ เพราะมันคือสิ่งเดียวที่
ดึงความฝันมาสู่โลกความจริง
ผู้ที่เข้าใจกฎข้อนี้จะสามารถพิชิตเป้าหมาย
ที่มาดมั่นไว้แม้ต้องใช้เวลานานโข
แต่มันเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ชนะที่ระลึก
เสมอว่า “ก่อนจะง่าย… มันก็ยากมาก่อนทั้งนั้น”
ผมได้ศึกษาเรื่อง Achievement Motive
(แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์) ซึ่งว่าด้วยแรงจูงใจ
ที่ต้องการทำภารกิจที่ได้รับให้ลุล่วงด้วยดี
คนที่มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ไม่ยอมท้อถอย
มีความอดทนสูง แถมยังมีแรงฮึดแบบไม่รู้หมด
สรุปแล้วมันฝากข้อคิดได้ดังนี้…
คนที่มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูง จะประสบ
ความสําเร็จในชีวิตได้เร็วกว่าคนที่ไม่มี
แรงจูงใจอะไรเลย
มันอาจจะลำบากในช่วงระยะสั้น
แต่ทำให้ความฝันเป็นจริงและสุขในระยะยาว เพราะคนเหล่านี้ได้เข้าใจแล้วว่า
“ก่อนจะง่าย… มันก็ยากมาก่อนทั้งนั้น”
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
www.thanaban.com