“คนที่รู้จักตัวตนของเราน้อยที่สุด มักจะเป็นคนที่
อยากจะวิจารณ์เรามากที่สุด” ดาราสาวสวยอย่าง
ไคลีย์ เจนเนอร์ กล่าวไว้
คงเพราะโลกทุกวันนี้มันเครียดครับ
คนทั่วไปจึงมักคลายเครียดด้วยการจับกลุ่ม
เมาท์มอย ฝอยกระจาย คอยวิจารณ์คนอื่น
แบบดุเดือดเลือดพล่าน ก็มันมันส์ดีนี่ครับ
พูดแล้วคันปาก แถมอาการคันนิ้วเป็นระยะ
จนต้องมานั่งพิมพ์บทความสั้นยาวให้อ่านกัน
หรืออีกกลุ่มก็นั่งจับกลุ่มคุยแต่เรื่องดีของตน
อันนี้ก็เพลินดีนะครับ ถือว่าดีกว่ากลุ่มแรก
ที่กลุ่มดังกล่าวเน้นก่อมลภาวะทางความคิด
สำคัญที่ตัวเรา อย่าไปอ่อนแอแค่คำจากปากหอย
ปากปูพวกนี้และเก็บมาเป็นข้อคิดสักนิดหน่อย
ข้อไหนที่คิดว่าผิดจริงตามเขาวิจารณ์ก็นำมา
ปรับปรุงตัวซะ
ส่วนข้อไหนที่เขาเล่ามาแล้วมันไม่จริง
ก็พิสูจน์ตัวเองซะ ทำให้เห็นว่าเราทำได้
ด้วยกฎเลขสาม โดยขอยกตัวอย่างดังนี้ครับ
โรนัลเด้ เป็นศูนย์หน้าดาวรุ่ง ได้ลงล่าตาข่าย
เป็นนัดแรก ในนาทีที่ 10 เขายิงไปหนึ่งประตู
หลายคนอาจมองว่า “แม่ง…ขี้ฟลุุก!! “
อีก 30 นาที โรนัลเด้ลากเดี่ยวเข้าไปยิงลอดดาก
ผู้รักษาประตู เป็นลูกที่สองในเกมส์
หลายคนก็มองว่า “ฟลุกอีกแล้วเว้ยเฮ้ย!! “
ก่อนหมดเวลา 10 นาทีโรนัลเด้ยิงเข้าอีกลูก
ด้วยการยิงฟรีคิกนอกเขตเสียบสามเหลี่ยมทองคำ
เป็นการทำแฮตทริกแบบที่ใครหน้าไหนคงไม่กล้า
พูดอีกแล้ว เพราะหายสงสัยในความสามารถ
ที่ผมพยายามเล่ามาเพื่อให้กำลังใจทุกท่าน
และทำให้้เข้าใจเพิ่มอีกนิดว่า การทำดีนั้นต้อง
ดีจริงและสม่ำเสมอ ไม่ใช่ประเดี๋ยวประด๋าว
เมื่อทำได้ดังนั้นแล้วเราจะพูดคำว่า
“#เธอรู้จักฉันน้อยไป“(น้ำเสียงใส่อารมณ์หน่อย)
ได้เต็มปากมากขึ้นครับ
เคยฟังเพลงของวง Silly Fools ใช่มั้ยครับ
ตอบผมให้ชื่นใจหน่อยได้มั้ยว่า เนื้อเพลงท่อนนี้
มาจากเพลงอะไรเอ่ย…
“สรุปว่าฉันนั้นดูไม่ดี
ทั้งที่เธอไม่ดู พอท้าให้เธอได้ดู
เธอก็ดันรู้ดีว่าฉันเป็นอย่างไร
จากน้ำลายของใครต่อใคร…”
หวังว่าจะเป็นประโยชน์
ถูกใจ ไลค์ คอมเมนต์
แชร์ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
ขอบคุณภาพจาก #OtherViibes