“ครูปกติทั่วไป ได้แค่บอกเล่า
ครูที่ดี ทำหน้าที่อธิบาย
ครูที่ดีกว่า จะพยายามแสดงให้เห็น
ครูที่ยิ่งใหญ่นั้น จะสร้างแรงบันดาลใจ”
– วิลเลี่ยม อาร์เธอร์ วอร์ด –
ผมเชื่อว่าเราทุกคนล้วนศิษย์มีครู
และเชื่อว่าครูบาอาจารย์ทั้งหลาย
ท่านก็ไม่ได้ตามไปสอนเราตลอดชีวิต
วันเวลาที่เหลือสำหรับนักเรียนรู้อย่างเรา
จึงหลบไม่พ้น “self learning” หรือ
“เรียนรู้ด้วยตัวเอง” นั่นเอง
สิ่งที่จำเป็นกับเราในกระบวนการเรียนรู้
ที่มองข้ามไม่ได้เลยนั่นคือ
วิธีการเรียนรู้ที่เหมาะกับเราเอง
พร้อมสิ่งแวดล้อมที่เป็นใจ ไม่ใช่ที่ไหนก็ได้
(หากเลือกได้) และเป็นประเด็นที่ผมขอ
เล่าให้ฟังในวันนี้ เผื่อว่าจะก่อประโยชน์
ต่อผู้ที่สนใจบ้าง
เราพบว่าพนักงานที่ต้องการใช้ความคิดสร้างสรรค์ มักไม่ต้องการห้องสี่เหลี่ยมมืดทึบ
มองไปเจอแต่ผนังห้องกับพัดลม แบบนี้
มันทำให้จินตนาการไม่พุ่งพล่าน
ดังนั้นห้องเรียนศิลปะหรือห้องเรียนสำหรับ
นักออกแบบทุกแขนงวิชาจึงควรดูแล้ว
ส่งเสริมให้ผู้เรียนคิดไอเดียออก ดังที่เราเห็น
ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศของ Google, หรือ
บริษัทชั้นนำต่าง ๆ ที่จัดออฟฟิศซะแหวกแนว
จนดูเหมือนร้านกาแฟ, เหมือนสวนสนุกซะงั้น
ส่วนห้องเรียนสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สมาธิ
มันก็คนละเรื่อง เพราะต้องการความเงียบสงบ
อาจจะเป็นห้องทื่อ ๆ ก็ได้ ไม่ซีเรียสอะไร
อันดับต่อมาที่สำคัญยิ่งคือ Learning Pyramid
ทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
จาก Havard business review ที่ชี้ให้เห็นว่า
รูปแบบการจัดการการเรียนรู้อย่างไร
จึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ดังนี้
– การฟังบรรยาย(Lecture) ได้ผล 5%
– การอ่าน(Reading) ได้ผล 10%
– การดูจากสื่อ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ ภาพเคลื่อนไหว(Audio Visual) ได้ผล 20%
– การได้เห็นตัวอย่าง(Demonstration) ได้ผล 30%
– การเรียนรู้จากการได้แลกเปลี่ยนพูดคุย(Discussion) ได้ผล 50%
– การได้ลงมือปฏิบัติ(Practice By Doing)
ได้ผล 75%
– การได้สอนผู้อื่น(Teaching Others) ได้ผลถึง
90%
ช่างสอดคล้องกับคำกล่าวของ
เบนจามิน แฟรงคลิน ที่บอกว่า
“บอกฉัน ฉันจะลืม
สอนฉัน ฉันจะจำ
แต่ถ้าให้ฉันได้ทำ ฉันจะเรียนรู้”
“Tell me and I forget.
Teach me and I remember.
Involve me and I learn.”
เมื่อทราบข้อมูลเช่นนี้แล้ว หวังว่าจะลองนำไป
ปรับใช้ในการพัฒนาตัวเอง, พัฒนาทีม, พัฒนา
องค์กรได้ตามเหมาะสม
ส่วนตัวผมเชื่อ เพราะได้ลองปฏิบัติมาพักใหญ่
คือการสอน มันเห็นผลชัดมาก พูดง่าย ๆ คือ
“ยิ่งสอน ยิ่งแน่น, ยิ่งเราโดนถามจากผู้เรียน
มากเท่าไหร่ เราก็จะแน่นขึ้นเท่านั้น”
ตอนนี้หนังสือเล่มใหม่ของผมเพิ่งวางขาย
ก็เป็นอีกช่องทางที่ได้ถ่ายทอดความรู้
เพิ่มพูนความแน่นเข้าไปอีก ที่สำคัญคือ
ใช้หาเงินได้ด้วยครับ
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ