ความหวังดีมันเป็นของฟรี

ถ้าเราได้ดอกไม้หนึ่งดอกทุกครั้งที่เราหวังดีต่อคนอื่น
ป่านนี้เราอาจจะได้ครอบครองสวนดอกไม้ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งเท่าที่จะจินตนาการถึงได้

ความหวังดีมันเป็นของฟรี​ หยิบยื่นให้ใครก็ได้
ถึงเขาไม่รับก็ไม่เสียเงินสักบาท​เพราะลงทุนแค่ใจ

แต่เดี๋ยวก่อน… ก่อนหยิบยื่นดอกไม้ให้ใคร
ลองตรองดูสักนิดว่าองค์ประกอบมันได้​
หรือพอเหมาะพอเจาะแล้วหรือไม่?

ถ้ายื่นดอกไม้ให้เขา​ แต่มือเขาไม่ว่าง​ เขาจะรับมั้ย?
ถ้าเขาแพ้เกสรดอกไม้เขาจะรับมั้ย?
ถ้าเขากลัวหนามเขาจะรับมั้ย?

คิดได้ดังนั้น​ ให้ปรับเข้ากับความหวังดีของเรา
1.​ ถ้าเขาดูมีความสุขอยู่แล้ว​ ความหวังดีของเรา
อาจจะไปก่อกวนเขาก็ได้
2.​ หวังดีไม่ถูกคนก็ไร้ค่า​ ถ้าคน​ที่กล่าวถึงเป็น
ประเภทน้ำเต็มโอ่ง​ ไม่เคยเปิดใจรับฟังสักนิดเลย
3.​ ดูเวล่ำเวลาด้วยจะดีที่สุด​ ไม่ใช่เป็นขงเบ้งหลังเหตุการณ์​ ตอนที่เขาต้องการความหวังดี
เรากลับไม่อยู่​ เมื่อวิกฤติผ่านไปจึงมาแสดง
ความหวังดี​ แบบนี้ก็ดูช้าไปมากโข

อย่างไรก็ตาม​ เพื่อรักษาไว้ซึ่งมิตรภาพ
ความหวังดีก็ยังเป็นที่ต้องการของสังคม
เพราะมันบอกว่าเราเป็นคนจิตใจดี
แค่แสดงออกให้ถูกคน​ ถูกที่​ ถูกเวลา
แล้วมันจะถูกทุกข้อเองครับ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์
ถูกใจ​ ไลค์​ คอมเมนต์ แชร์ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต

ขอบคุณครับ
ธนบรรณ​ สัมมาชีพ
ขอบคุณภาพจาก​ #arteide

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *