ความสุขของเรา ใช่ว่าคนเขาจะ Like
ความเศร้าใจของเรา ใช่ว่าคนเขาจะ Sad
เรื่องราวบางเรื่องเก็บไว้ในใจบ้างก็ดี
เพราะไม่ใช่ everybody จะพลอยยินดี
หรือรู้สึกรู้สา มีอารมณ์ร่วมไปกับเรา
ผมมีเพื่อนมากมายที่ต่อหน้าก็ชื่นชมเรา
แต่ลับหลังก็นินทาเราซะยับ ประเภทที่ว่า
ผมต้องนอนจามทั้งคืน ทั้งที่ไม่มีไข้มีป่วย
เฮ้ย!.. เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
มีรุ่นน้องผมคนนึงบอกว่า…
มันไม่เคยโพสข้อความดราม่าลงเฟซบุ๊กเลย
เพราะนอกจากจะไม่ได้อะไรแล้ว ยังมีพวก
ที่คอยจับภาพหน้าจอไปนินทา เมาท์มอย
เสีย ๆ หาย ๆ ยิ่งหากทำธุรกิจด้วยแล้ว
มันยิ่งดิสเครดิตตัวเองแบบไม่รู้ตัว
ซึ่งผมก็ไม่ได้เถียงมันนะครับ
เพราะทุกวันนี้มันขับ BMW 2 คัน และมีเงินเก็บ
เป็นหลายสิบล้าน โดยที่ไม่มีหนี้สักบาท
ถึงผมเถียงไป มันก็คงไม่ฟัง
แถมมันยังบอกผมอีกด้วยว่า
มันทำธุรกิจแบบไม่เคยเสียค่าการตลาด
เพราะการตลาดที่ดีที่สุดคือตัวมันเอง
คือ “รู้จริง รู้ชัด พูดตรงไปตรงมากับลูกค้า”
ใครรับไม่ได้ก็ไม่ต้องร่วมธุรกิจกัน
เอาเวลามาดูแลตัวเองดีกว่า
ผมแค่เล่าให้ฟังนะครับ
ทุกคนอยากเป็น Somebody
ไม่มีใครอบากเป็น Nobody
แต่ถ้ามันต้องไปง้องอนให้ทุกคนมาชื่นชม
มายินดีกับเราอยู่เสมอ มันคงไม่ใช่
“จงหวังดีกับตัวเอง” อยู่เสมอนะครับ
เพราะเป็นหน้าที่ ที่ไม่มีใครทำแทนได้อีกแล้ว
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ