ความสุขของเรา ใช่ว่าคนเขาจะ Like
ความเศร้าใจของเรา ใช่ว่าคนเขาจะ Sad
เรื่องราวบางเรื่องเก็บไว้ในใจบ้างก็ดี
เพราะไม่ใช่ everybody จะพลอยยินดี
หรือรู้สึกรู้สา มีอารมณ์ร่วมไปกับเรา
ผมมีเพื่อนมากมายที่ต่อหน้าก็ชื่นชมเรา
แต่ลับหลังก็นินทาเราซะยับ ประเภทที่ว่า
ผมต้องนอนจามทั้งคืน ทั้งที่ไม่มีไข้มีป่วย
เฮ้ย!.. เมื่อ 9 ปีที่แล้ว
มีรุ่นน้องผมคนนึงบอกว่า…
มันไม่เคยโพสข้อความดราม่าลงเฟซบุ๊กเลย
เพราะนอกจากจะไม่ได้อะไรแล้ว ยังมีพวก
ที่คอยจับภาพหน้าจอไปนินทา เมาท์มอย
เสีย ๆ หาย ๆ ยิ่งหากทำธุรกิจด้วยแล้ว
มันยิ่งดิสเครดิตตัวเองแบบไม่รู้ตัว
ซึ่งผมก็ไม่ได้เถียงมันนะครับ
เพราะทุกวันนี้มันขับ BMW 2 คัน และมีเงินเก็บ
เป็นหลายสิบล้าน โดยที่ไม่มีหนี้สักบาท
ถึงผมเถียงไป มันก็คงไม่ฟัง
แถมมันยังบอกผมอีกด้วยว่า
มันทำธุรกิจแบบไม่เคยเสียค่าการตลาด
เพราะการตลาดที่ดีที่สุดคือตัวมันเอง
คือ “รู้จริง รู้ชัด พูดตรงไปตรงมากับลูกค้า”
ใครรับไม่ได้ก็ไม่ต้องร่วมธุรกิจกัน
เอาเวลามาดูแลตัวเองดีกว่า
ผมแค่เล่าให้ฟังนะครับ
ทุกคนอยากเป็น Somebody
ไม่มีใครอยากเป็น Nobody
แต่ถ้ามันต้องไปง้องอนให้ทุกคนมาชื่นชม
มายินดีกับเราอยู่เสมอ มันคงไม่ใช่
จงหวังดีกับตัวเองอยู่เสมอนะครับ
เพราะเป็นหน้าที่ ที่ไม่มีใครทำแทนได้อีกแล้ว
ตอบแทนตัวเองให้ดีที่สุด ด้วยการตั้งสติ
ในการดำเนินชีวิต เหนื่อยก็พัก หนักก็วาง
แล้วเดินหน้าต่อไปในสไตล์เรา
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ