ชีวิตเราเอง

เด็กหนุ่มต่างจังหวัดคนหนึ่ง เป็นมาแล้วทั้ง
ลูกจ้างและเถ้าแก่​ ออกมาประกอบอาชีพ
เพราะเรียนติด F สี่ตัวครับ(โดนเชิญออก)
ได้บทเรียนว่าทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย
มันไม่เหมาะกับเรา

ตอนนั้นผมไม่รู้จักหรอก ว่าวิทยากรหรือนักเขียน
เขาเป็นกันได้อย่างไร​ ต้องทำยังไงถึงจะมี Followers ให้ตายเหอะ… ให้ผมคิดเองคงไม่ได้หรอกครับ

แต่เมื่อเป้าหมายชัด​ ระหว่างทางจะมีตัวช่วย
โผล่มาเอง คือ ผมเริ่มลงคอร์สเรียน
1. ได้ความรู้
2. ได้เครือข่าย
3. ได้สลายอีโก้ตัวเองให้ลงมาสู่ระดับที่พอดี
เพราะโลกนี้มีคนเก่งกว่าเราอีกเยอะ

ย้อนไปช่วงเริ่มทำงาน เป็นลูกจ้างเริ่มมีหน้าที่
ให้ทำเยอะมากงานที่เราไม่ชอบหรือเกลียดเข้าไส้ มันทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น เพราะเราจะขยาด
แทบทุกครั้งที่ทำมัน

แต่ในขณะเดียวกัน มันทำหน้าที่ขัดเกลาเรา
ได้ดีมากรวมถึงคนที่เราไม่ชอบหน้าด้วยนะครับ 555

ส่วนงานที่ชอบ เราเข้าสู่สภาวะ Flow
คือทิ้งความ work life balance ไปสิ้น
หัวสมองเราเก็บไปคิดว่าจะทำงานที่ชอบ
ให้ทำเงินได้อย่างไร จนมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะ
ไม่ทิ้งฝันตัวเอง (อย่าให้กระทบงานหลักนะ)

งานหลักหรืองานประจำนำมาซึ่งรายได้และสวัสดิการ(สวัสดิการเป็นเรื่องสำคัญนะ)
ส่วนงานเสริมช่วยเติมเต็มจิตวิญญาณ
เราจะให้น้ำหนักงานประเภทไหนมากกว่ากัน
ก็สุดแท้แต่ความเหมาะสม เรื่องนี้เรารู้ตัวเราดี

มันคือการใช้ชีวิต
มันคือการใช้ประสบการณ์ที่เราสะสมมาให้เกิดผล
มันคือการเดิมพันครั้งใหญ่ที่แสนคุ้มค่า
เราอาจมีจุดเริ่มต้นต่ำกว่า สูงกว่า หรือเท่าค่าเฉลี่ย
แต่เหนือสิ่งอื่นใด ความทุ่มเทของเรามันต้อง
เกินร้อยเท่านั้น

เล่นเอง เจ็บเอง
ลุยต่อเอง เชียร์เอง
… ชีวิตเราครับ
ผมขอส่งกำลังใจให้ทุกท่าน

ท้ายนี้ผมขอขอบคุณตัวเอง
ชายผู้อ่อนโลกในวันวาน มีโง่เขลาบ้างในหลายเวลา
แต่ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่าย ๆ อดทนมาเสมอ
เพราะเชื่อว่าข้างหน้าจะมีสิ่งที่ดีรออยู่

ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
www.thanaban.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *