เราทำได้ดีกว่าเขามั้ย ?
เราทำได้สวยงามกว่าเขามั้ย ?
เราทำได้รวดเร็วกว่าเขามั้ย ?
เป็นคำถามที่มักจะเกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน
เพราะในโลกแห่งการแข่งขันแล้วนั้น
มันหยุดวัดกันที่ผลงานไม่ได้เลยครับ
พูดถึงการแข่งขัน
มันมีผลทั้งชนะ เสมอ แพ้
ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
สุดท้ายมันต้องลงเอยด้วยการพัฒนาตนเอง
เพื่อชีวิตที่ดีกว่าเสมอ
เรามักได้ยินกันบ่อยครับว่า
“ชนะอะไร ก็ไม่เท่าชนะตัวเองในวันวาน”
แล้วหลายคนอาจสงสัยแต่ไม่เคยถาม
ว่าถ้าคิดแต่ชนะตัวเอง โดยไม่สนสภาวะรอบข้าง
มันจะได้หรือ ? เช่น
– การสอบแข่งขันชิงทุน
– การประกวดดนตรี
– การประกวดงานศิลปะและกิจกรรมต่าง ๆ
และที่ใกล้ตัวสุด คือ การสอบคัดเลือกเลื่อนขั้น
หรือตำแหน่งหน้าที่การงาน
หากมันลงเอยที่เราชนะ
ได้รับการคัดเลือก มันคงเป็นที่น่าดีใจ
แต่ชีวิตจริงมันไม่ค่อยจะสมหวังดังคิด
ซึ่งจะว่าไป เรามักพบกับความพ่ายแพ้
สลับสับเปลี่ยนกับการชนะในสัดส่วนที่
สูสีกัน ดังนั้น วิธีคิดและ วิธีการที่เรา
จะกลับมาสู่เส้นทางแห่งการเป็นแชมเปี้ยน
หลังจากที่เพิ่งพ่ายแพ้มา จึงจำเป็นอย่างยิ่ง
ไมเคิล จอร์แดน และโอปร้าห์ วินฟรีย์
ได้กล่าวไว้ว่า…
“เราแข่งกับตัวตนคนเก่าของเรา
เวอร์ชั่นเมื่อวานนี้”
ซึ่งผมขอขยายความต่ออีกนิด ดังนี้
หากเราตั้งเป้าหมายที่จะชนะตัวเอง
เราจะเริ่มวิเคราะห์ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง
มุ่งมั่นที่จะทำลายสถิติ แม้บางคราจะท้อ
แต่ก็ใช้แรงขับจากภายในคอยกระตุ้น
อยู่เสมอ ดั่งขุมพลังที่ไม่มีวันดับ
วันนี้เราอาจแพ้คู่แข่ง
วันนี้เราอาจผิดหวังในบางสิ่งที่ตั้งใจไว้
แต่ด้วยอานุภาพแห่งการชนะตนเอง
มันจะส่งผลให้ “การชนะคู่แข่ง”
เป็นผลพลอยได้
เห็นมั้ยครับว่า เมื่อเราชนะตนเองได้
ทุกอย่างมันก็จะเป็นใจโดยปริยาย
จากคำถามที่ผมจั่วหัวไว้ตอนต้นบทความว่า
เราทำได้ดีกว่าเขามั้ย ?
เราทำได้สวยงามกว่าเขามั้ย ?
เราทำได้รวดเร็วกว่าเขามั้ย ?
หวังว่าทุกท่านคงได้คำตอบเป็นที่เรียบร้อย
แล้วว่าจะจัดการกับชีวิตของตนเองอย่างไร ?
แค่คิดก็สนุกแล้ว จริงมั้ยครับ ?
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
============
ทุกท่านสามารถติดตามทุกความเคลื่อนไหวที่
http://www.2bfranchisedd.com/category/ข้อคิดคนทำงาน/
“นำเสนอปรัชญาชีวิต สร้างแรงผลักดัน
แรงบันดาลใจในการทำงานให้กับคนทำงาน
พร้อมให้คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ
ที่สนใจขยายสาขาด้วยระบบแฟรนไชส์
อย่างจริงจัง”
ขอบคุณภาพจากเพจ artuth