ทำไมต้องปรัชญา ?


ทำไมต้องปรัชญา ?
1. นักวิจารณ์บอกว่า
“Philosophy bakes no bread.”
หมายความว่า “ปรัชญานั้นกินไม่ได้”

ต้องให้คิดต่อไปอีกว่า
เราจะกินไปทำไม ?
เมื่อตอบว่ากินเพื่อให้มีชีวิต
อยู่รอดได้

ก็คงต้องถามต่อว่า
แล้วเราจะอยู่รอดไปเพื่ออะไร ?

2. ในยุคที่คนไม่ค่อยพูดถึงปรัชญา
ก็มักมีคำกล่าว “ปรัชญานั้นตายไปแล้ว”
แต่ความเป็นจริงแล้ว
คนที่พูดประโยคนี้ต่างหาก
ที่ทยอยล้มหายตายจาก
แต่ปรัชญาก็ยังคงอยู่

3. ถ้าคนทั่วไปเรียนรู้เกี่ยวกับ
ปรัชญาบ้าง บางทีโลกของเรา
จะสงบสุข น่าอยู่มากขึ้น

บางทีการเรียนปรัชญาผ่านตำรา
เล่มละไม่กี่ร้อย อาจช่วยป้องกัน
ปัญหาร้ายแรงหลายเรื่องบนโลกใบนี้
และช่วยเยียวยาปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วได้
ไม่มากก็น้อย

4. ปรัชญาสอนให้เราสงสัย
รู้จักคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล
การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน
กว่า 2,000 ปีที่ผ่านมา
จะทำให้มนุษย์ไม่ผิดซ้ำผิดซ้อน

“ความรักในความรู้” จึงเป็นดั่งอีกชื่อหนึ่ง
ของปรัชญานั่นเอง

5. ถ้าใครสักคนถามเราว่า
“เราคือใคร ?
โลกที่เราอยู่นี้มาจากไหน ?
เราอยู่ไปเพื่ออะไร ?
ชีวิตคืออะไรกันแน่ ?”

ไม่ต้องห่วงถ้ายังตอบไม่ได้ในทันที
แต่ผมแนะนำแบบเพื่อนว่า
หนังสือปรัชญาหรือสื่อต่าง ๆ
ในอินเตอร์เน็ตช่วยให้เราได้ฉุกคิด
ขึ้นมาได้ดีอย่างมากเลยล่ะ

6. ปรัชญาช่วยเชื่อมตัวเรา
เข้ากับประวัติศาสตร์แห่งมนุษยชาติ
เป็นแนวทางที่ทำให้เราสามารถดาวน์โหลด
องค์ความรู้ต่าง ๆ บนโลก

หลายอย่างได้ตกผลึกไปแล้ว
แต่ก่อนที่จะตกผลึกในเรื่องใดบ้าง
มันมีกระบวนการ มีที่มาที่ไปที่ต้อง
แลกมาด้วยชีวิต ซึ่งหากเราพลาดมันไป
เราต้องมานั่งเรียนรู้เอง แถมอาจต้อง
น้ำตาตกในอย่างน่าเสียดาย

7. ผมชอบการยกตัวอย่างหนึ่ง คือ
ทุกครั้งที่มีการฆาตกรรม มันก็ต้องมี
ผู้ต้องสงสัยมากมาย(ดูจากละคร ซีรีย์
น่าจะนึกภาพออก) แต่สุดท้ายแล้ว
มันต้องมีฆาตกรตัวจริงอยู่คนเดียว

การศึกษาปรัชญาก็ทำนองนี้
มันช่วยให้เรารู้จักวิเคราะห์หาคำตอบ
ที่ถูกต้องที่สุดเพียงหนึ่งเดียว

มันดูยากนะ แต่มันท้าทายมิใช่หรือ ?

8. ถ้าเราดูมายากลแล้วคิดว่ามันเป็นความจริง
นั่นแสดงว่าเราก็อาจเป็นอย่างคนทั่วไป
ที่ดูเอาความบันเทิง ไม่อยากคิดมาก

แต่สำหรับนักปรัชญาแล้ว
ข้อสงสัยหรือเคลือบแคลงใจ
มันต้องโดนไขความกระจ่าง
และค้นหาเฉลยให้ได้

9. ความสงสัยใคร่รู้ของคนนี่แหล่ะ
ที่เป็นกลไกสำคัญทำให้โลกเติบโต
ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ หากตัวเรามี
คำถามกับสิ่งต่าง ๆ รอบกายอยู่เสมอ
นั่นจะทำให้เราไม่หยุดคิดและหยุดค้นหา
หรือมีความเป็นนักปรัชญาอยู่ในตัว

ผมหยุดไว้ที่ 9 ข้อ
เพราะเชื่อว่าเลข 9 เป็นเลขที่สวย
นักปรัชญาอาจถามต่อว่า ทำไมจึงเชื่อเช่นนั้น ?
ผมก็ต้องตอบว่า มันเป็นคำพ้องเสียง
(เก้า กับ ก้าว) คำว่าก้าวมันแสดงออก
ถึงพฤติกรรมที่บ่งบอกว่าเราไม่หยุดอยู่กับที่
เหมือนกับก้าวหน้าตลอดเวลานั่นแล

แล้วเพื่อน ๆ ล่ะครับ
เคยคิดกันเล่น ๆ มั้ยว่า
เราเกิดมาเพื่ออะไรกันนะ ?

เมื่อได้คำตอบแล้ว
พิมพ์ลงในช่องแสดงความคิดเห็นได้เลย

ปล.ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นความคิดเห็นส่วนตัว
ของผมทั้งนั้นครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *