“วันที่เลวร้าย ไม่ได้บอกว่าเราต้องเลวร้าย
ไปตลอดชีวิต” บางสิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่เลวร้าย
เป็นแค่จำนวนเหตุการณ์ มันไม่ได้บอกว่า
เราเป็นคนล้มเหลวเลยสักนิด
ถ้าพูดถึงความล้มเหลวแล้วยกตัวอย่าง
การกลับมาอย่างสง่างาม ในหัวผมมัก
ปรากฏหน้าชายคนหนึ่งที่แม้จะจากโลกนี้
ไปแล้ว แต่เขาคือตำนานการล้มแล้วลุก
อย่างสร้างสรรค์และทำให้คนทั้งโลกยอมรับ
Steve Jobs ชายที่มีสไตล์การทำงาน
แบบ perfectionist จนมีปัญหากับ
เพื่อนร่วมงาน ผู้เคยโดนไล่ออกจากบริษัท
Apple ที่ตนปลุกปั้นมากับมือเมื่อปี 1985
ใครเล่าจะไม่เสียใจ เขาเกือบลาวงการจาก
ธุรกิจด้านนี้ ย้ายออกจาก Silicon Valley
เพื่อให้ลืมเลือนอดีตและความผิดหวัง
ไม่อยากพบปะสังคม
ช่วงเวลานั้นได้กลายเป็นช่วงเวลาที่มีค่า
ที่เขาให้เขาได้ครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ
ที่ผ่านมา เขาสะสมประสบการณ์ใหม่
พร้อมนวัตกรรมมากมายซึ่งผมขอไม่
บรรยายผ่านโพสนี้
เขากลับมารับตำแหน่ง CEO ของ APPLE
อีกครั้งในปี 1997 นับจากนั้นมาบริษัทก็เข้า
สู่ยุครุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน และตัว JOBS
เองก็นับได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ
เมื่อพูดถึงตำนานระดับโลกคงไม่มีใครปฏิเสธ
ชื่อนี้ได้ (จริง ๆ แล้วที่ผมบอกว่าล้มแล้วลุก
อย่างสร้างสรรค์ มันก็คือการที่เราไม่ล้มเลิก
นั่นเอง เพราะ JOBS เองก็ให้ข้อคิดว่า
ก่อนจะมีเลข 1 ได้ มันก็ต้องมีเลข 0 ก่อน
… ชายผู้นี้กล่าวได้คมกริบอย่างยิ่ง)
มองให้ใกล้ตัวก็เราเองนี่แหละครับ
โตมาจนป่านนี้ล้มเหลวเรื่องน้อยใหญ่มา
ไม่รู้ตั้งกี่หน เราก็อดทนข้ามผ่านมันมาได้
ยิ่งขนาดปัญหามันใหญ่ขึ้นเท่าไหร่
หากเราแก้มันได้ก็ยิ่งทำให้เราแกร่งขึ้น
ความล้มเหลวไม่ใช่คำสาป มันคือส่วนหนึ่ง
ของความสำเร็จ อย่าเสียเวลาจมปลักอยู่
กับอารมณ์ด้านลบให้มากนัก มองอย่าง
เป็นกลางแบบไม่ต้องบวกจนเกินไป
ไม่มีใครสมหวังทุกเรื่องและไม่มีใครผิดหวัง
ไปซะทุกเรื่อง ดังนั้นอย่าหยุดความหวัง
พักผ่อนเติมพลังแล้วเดินทางต่อครับ
หากใครนั่งซึมเศร้าอย่างในรูปที่ผมแนบมา
(กรุณาดูภาพนี้อีกที) อย่าอยู่ในสภาพนี้อีกเลย
ครับ สั่งเช็คบิลอารมณ์ลบเหอะ เพราะสิ่งที่ดี
กว่า… ย้ำว่าดีกว่า กำลังรอเราอยู่แค่รอเวลา
อีกหน่อย
ลุยครับ!
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
ขอบคุณภาพจากเพจ Solidao