มีใครสักคนเคยพูดไว้ “อย่าปล่อยใครต่อใคร
มาพูดกรอกหูเราว่า ต้อง productive ตลอดเวลา
เราเป็นคนนะเว้ย ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่เอะอะก็ต้องทำอะไรตามที่ได้โปรแกรมไว้” ทีแรกผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แต่คิดดูอีกที มันก็จริงนะ
หัดทำตัวผ่อนคลาย พักเรื่องตรรกะและเหตุผล
ไปสู่โหมดอารมณ์และจินตนาการกันบ้างเถอะ
ก็เพราะ productive จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่
ปริมาณงานที่ทำ หรือทำงานตลอดทั้งวัน
จนพวกบ้างานเรียกพี่ ด้วยแท้จริงแล้ว
การทำงานที่มีคุณค่าให้แล้วเสร็จต่างหาก
ที่เป็นตัวบอกว่า เรามี productivity
สูงขนาดไหน
ดังนั้นสิ่งที่ควรโฟกัส คือ “งานที่มีคุณค่า”
(ยกระดับชีวิตให้ดีขึ้น)เราได้วางแผนจัดการมันไว้อย่างไร มันมีเส้นตายเมื่อไหร่ ขีดจำกัด
ในการลงมือทำในแต่ละวันคือกี่ชั่วโมง
เมื่อเลือกงานที่มีคุณค่าในแต่ละวันได้
ที่เหลือก็จดจ่อกับมันมากหน่อย
ส่วนวันที่สมองกับสองมืออยากพักบ้าง
ขอบอกเลยว่า อย่าได้มองข้ามมันเด็ดขาด
ของขวัญที่ดีเยี่ยมสำหรับคนทำงานอย่างเรา
มันหนีไม่พ้นการได้พักผ่อนเต็มอิ่มหรอกนะ
Chris Bailey เจ้าของหนังสือขายดี
“HYPER FOCUS… How to be more
productive in a world of distraction.”
ได้กล่าวไว้ “ถ้าวันนี้เราตั้งใจที่จะพักผ่อน
แล้วเราไม่ได้ทำงานอะไรเลยก็ถือว่ามีผลิตภาพ
โดยสมบูรณ์เช่นกัน”
ว่าแต่ว่าวันพรุ่งนี้วางแผนทำอะไรไว้
ก็อย่าลืมตั้งสติลุยให้เต็มที่นะครับ
ถึงเวลาจะพักผ่อน ก็เอาให้สุด
จะได้ไม่เสียสมดุลชีวิต จน Burnout ไปตาม ๆกันครับ
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
ขอบคุณภาพจาก @jars.arts
จากเพจ artruth