จงใช้ศักยภาพที่มี “ผลิตความสุข”
ไม่ใช่ “ไล่ตามความสุข” เป็นคำแนะนำ
เกือบทุกครั้งที่ผมกล่าวออกไปให้กับทุกท่าน
ที่มาปรึกษาเรื่องการค้นหาศักยภาพตัวเอง
ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่…
ทุกคนล้วนมีจุดแข็งประจำตัว
บางคนรู้ตัว… ก็นำไปพัฒนาตัวเอง
ให้หาเงินหาทองได้
ส่วนบางคนมีของแต่กลับไม่รู้ตัว…
ก็ยังคงอาจคลุมเครือกับชีวิตนิดหน่อย
เพราะไม่รู้ว่าตนถนัดอะไรเป็นพิเศษ
ทำให้ขาดความมั่นใจและทำให้ไม่เฉียบคม
ไปอย่างน่าเสียดาย
การใช้ศักยภาพที่มีผลิตความสุข
เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะความสุข
เป็นตัวขับเคลื่อนให้เราเข้าใกล้ความสำเร็จ
ก่อนอื่นเราต้องเคารพนับถือตัวเอง
เชื่อว่าคนแบบเรานั้นมีแค่หนึ่งเดียวในโลก
ด้วยวิธีคิดแบบนี้จะทำให้ไม่ตกหลุมพราง
ที่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร
(ลายนิ้วมือก็ยังไม่มีใครซ้ำ, รอยหยักในสมอง
ก็ไม่ซ้ำกัน จริงมั้ยครับ…?)
คิดได้ดังนี้ พลังจะเริ่มมาแล้วนะ
ต่อไปก็เริ่มผลิตความสุขด้วยสมองของเรา
โดยต้องลด ละ เลิกพฤติกรรมทำนองที่ว่า
ต้องรอปัจจัยภายนอกมาสมทบ ทำนองว่า
ชีวิตนี้ยอมพลีเพื่องาน ทำกันแทบไม่ได้กิน
ได้นอน หวังว่าเจ้านายจะเหลียวแลและกล่าว
คำชมเสียหน่อย แต่ในชีวิตจริงกลับไม่เป็น
เช่นนั้นก็พาลซึมเศร้าเหงาใจไปใหญ่
เมื่อหันมาสร้างความสุขขึ้นมาเอง
ไม่ต้องไปไล่ตามมันก็พลันให้คิดเสียใหม่
จากที่หมกมุ่นแต่เรื่องงานก็แบ่งเวลามา
ให้ครอบครัวบ้าง, ให้สังคมเพื่อนบ้าง,
ให้กับตัวเองด้วยการออกกำลังกายบ้าง
หรืองานอดิเรกที่ชื่นชอบบ้าง… ชีวิตจะได้
มีสมดุล เพราะไม่ได้ไปให้น้ำหนักกับสิ่งใด
มากเกินเหตุ
ศักยภาพหลักที่เป็นจุดเด่นของเรา
เมื่อมันเป็นที่ต้องการของตลาด มันก็เป็น
ธรรมดาที่ต้องรีบทำงาน รีบผลิตสินค้า
ออกมาเสิร์ฟตลาด ด้วยกรอบความคิด
(mindset)ที่ดีจะทำให้ความสุขมันพรั่งพรู
ชนิดที่ว่าผลิตความสุขออกมาทุกวัน
แบบนี้ความสำเร็จมันคงไม่หนีไปไหนไกล
แต่หลายคนที่มีศักยภาพหลัก
แล้วยังวนเวียนอยู่กับการไล่ตามความสุข
เหมือนหนูถีบจักร อันนี้พึงระวังให้ดี
เพราะนอกจากจะเสียเวลาเปล่า
ยังอาจค้นไม่เจอเสียที
เพราะคำตอบนั้นมันไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล
“ความสุขนั้นไซร้ อยู่ในใจเราเอง”
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
www.thanaban.com