ใช้เวลาอยู่กับคนที่มอบพลัง ไม่ใช่ “มอดพลัง”
เพราะคนที่มอบพลังจะทำให้ชีวิตแต่ละวัน
ดูคึกคัก มีความกระตือรือร้นเหมือนเรามี
แบตเตอรี่ชีวิตเต็มเปี่ยมอยู่เสมอ
คนที่มอบพลังนั้นอาจเป็นเพื่อนก็ได้นะ
หรือบางทีก็เป็นเจ้านาย เป็นแฟนก็ได้อีก
สำคัญคือเขาเหล่านี้มีทัศนคติเชิงบวก
สามารถสนับสนุนเราได้เมื่อเดือดร้อน
หรืออย่างน้อยที่สุดก็ให้คำปรึกษาดี ๆ ได้
บางทีแหล่งมอบพลังงานก็มาในรูปแบบ
สังคมออนไลน์จากแพลตฟอร์มต่าง ๆ ครับ
เช่น ติดตามเพจที่ให้แรงบันดาลใจ, ติดตาม
กลุ่มเฟซบุ๊คที่สอนวางแผนการเงินส่วนบุคคล, ติดตามยูทูปช่องธรรมะ เป็นต้น
ของแบบนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก
เมื่อเรารับพลังงานดี เราก็จะมีพัฒนาการ
แบบไม่รู้ตัวเพราะสมองได้มีกิจวัตรสร้างสรรค์
ลองนึกภาพตอนนั่งกินข้าวกับคนที่มอบพลัง
ระหว่างกินก็จะมีการแลกเปลี่ยนความรู้กัน
ยิ่งกินก็ยิ่งเพลินแถมได้วิชาตัวเนื้อติดตัว
กลับบ้าน
ส่วนการนั่งกินข้าวกับพวกมอดพลังก็สนุกนะ
ชนิดที่ว่าฆ่าเวลาได้อย่างดี แต่เรื่องที่คุยกัน
กลับเต็มไปด้วยเรื่องนินทา เอาปัญหาชาวบ้าน
มาซุบซิบ แลกเปลี่ยนข่าวลือกันอย่างเมามัน
สุดท้ายหลังจบการสนทนาก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร แล้วเมื่อคบกับพวกนี้ไปนาน ๆ ชีวิตก็พาล
ติดหล่มโดยไม่รู้ตัว
ที่พูดมาตั้งนาน ผมก็วกเข้าไปภาษิต
“คบคนพาล พาลพาไปหาผิด
คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล” นั่นเอง
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราเองก็จะจัดเป็นกลุ่มคน
ที่ “มอบพลัง” นะครับ
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
www.thanaban.com
======
ภาพจาก Thanaban โดย Midjourney