ไม่ต้องทฤษฎีอะไรมาก สิ่งที่เราเรียกกันว่า
“ยื่นหมูยื่นแมว” นั่นแหละคือแก่นของความ
สำเร็จในโลกปัจจุบันที่มีเรื่องผลประโยชน์
เข้ามาเคลือบตลอดเวลาไม่ว่าเราจะรู้ตัว
หรือไม่ก็ตามที
ไม่เคยกดไลค์ กดแชร์ ชาวบ้าน
แต่พอเวลาทำเพจหรือช่องทางออนไลน์
ก็อยากให้เพื่อนช่วยแชร์ของตน มันจะเป็น
ไปได้อย่างไร ?
ไม่ไปงานบวช งานแต่ง ไม่รับซองทุกงาน
แต่พอถึงคราวที่ตนเองจัดงานบ้าง
แขกเหรื่อที่ไหนจะมาเยี่ยมเยือน
แค่คิดก็เหนื่อยใจแล้ว(ใครมีทุนทรัพย์หนา
คงไม่ต้องซีเรียส)
หรือไม่เคยเลี้ยงข้าวเลี้ยงปลาลูกน้อง
ครั้นพอจะขอร้องให้ช่วยงานด่วนหลังเลิกงาน เขาก็ไม่อยากอาสา หรือไม่สมัครใจทำ
หรือเรื่องง่าย ๆ ที่ผู้ใหญ่บางคนไม่เข้าใจ
คือวัฒนธรรมการไหว้และรับไหว้
เมื่อมีคนหนึ่งไหว้อย่างงาม แต่อีกฝ่าย
ไม่รับไหว้ ครั้งต่อไปก็ไม่มีใครอยากไหว้อีก
ไม่ยื่นหมูยื่นแมว ไม่รู้จักแนวคิด win-win
คิดแต่จะรับฝ่ายเดียว มันไม่ยั่งยืนหรอกนะ
เพราะในระยะยาวแล้ว ไม่มีใครอยากคบหา
เมื่อแก่เฒ่าชราก็โดดเดี่ยวเดียวดาย
แม้กระทั่งโลกออนไลน์ที่มากมี
ด้วยเพื่อนหน้าใหม่ก็ไม่มีใครอยากคุย
เพราะ firts impression ไม่เกิด
เพื่อนก็เตลิดก่อนละครับ
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
ผู้เขียนหนังสือ
“สร้างภาพสวยถูกใจด้วย AI Art”
สั่งซื้อที่ https://th.shp.ee/uRcrX7C
และหาซื้อได้ในร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศครับ