ผมคงไม่ต้องสาธยายความหมาย
ของคำว่าเส็งเคร็งนะครับ
เพราะแค่ได้ยินก็ละเหี่ยเพลียใจ
แล้วเราจะทนคนพวกนี้ไปทำไม
ลาออกสิครับ!!!
ที่ผมต้องเขียนบทความนี้ขึ้นมา
เพราะอยากให้ทุกคนหลุดจากกรอบที่คนอื่นวาดให้
และเชื่อว่าเมื่อหลุดจากกรอบนั้นได้ย่อมมีสิ่งดี ๆ รออยู่
หลายต่อหลายครั้งที่การใช้เหตุผลของคนดี
ไม่มีประโยชน์กับคุณเส็งเคร็ง เพราะคนพวกนี้
ตรรกะเพี้ยน แต่ด้วยลีลาการเจรจาที่น่าเชื่อถือ
เสียงดัง ฟังชัด ทำให้เป็นต่ออยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
สุดท้ายก็เถียงชนะคนดีที่ไม่ตอบโต้อย่างสบาย ๆ
#ลาออกวันนี้เลย…
เมื่อคนดีไม่ตอบโต้ ยิ่งทำให้คุณเส็งเคร็งได้ใจ
มันไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย เพราะ พวกเขาจะยกระดับการยียวนกวนประสาทเราเพิ่มมากขึ้น
การตอบโต้ หรือ สู้เพื่อตัวเองจึงเป็นยาแรง
ที่ดับโรคนี้ได้และนำมาซึ่งชีวิตที่ดีกว่า
โดยไม่ปล่อยให้คุณเส็งเคร็งกล่าวหาว่าร้ายเราแต่ฝ่ายเดียว
ผมเชื่อนะครับว่าหลายคนไม่ชอบมีปัญหากับคนอื่น
เมื่อได้รับการกล่าวหาอะไรที่ไร้สาระมาก็ปิดปากเงียบ
คิดไปว่า #พูดไปสองไพเบี้ยนิ่งเสียตำลึงทอง
พอเงียบบ่อยเข้าก็กลายเป็นขาดความมั่นใจ
โดยไม่รู้ตัว และซ้ำร้ายยังทำให้เพื่อนร่วมงาน
หรือคนอื่นมองว่าเราพึ่งพาอาศัยอะไรไม่ได้
เพราะปิดปากเงียบซะขนาดนั้น
คุณเส็งเคร็งที่ผมยกมา
เป็นประเภทที่ไม่ค่อยมีเหตุผล
มีแต่เรื่องไร้สาระในหัว
จ้องแต่จะหาเรื่องชาวบ้าน
คนดีอย่างเรา อย่าไปยอมเขาครับ
ถึงเราจะไม่เคยคิดร้ายกับใคร
ก็ใช่ว่าคนอื่นจะไม่คิดร้ายกับเรา
แม้เราหวังความสงบ
แต่ก็ใช่ว่าคนอื่นจะหวังสงบเหมือนเรา
การมีภูมิต้านทานเอาไว้จึงเป็นเรื่องดีที่สุด
เมื่อมีคนเข้าใจผิดก็ต้องแก้ต่าง
เมื่อเรื่องงานโดนกล่าวหาก็ต้องวิเคราะห์
ไม่ใช่รับ ๆ ๆ ๆ มาฝ่ายเดียว
มิฉะนั้นคุณเส็งเคร็งก็จะมาวนเวียนในชีวิตอยู่ร่ำไป
พร้อมใจ พร้อมกายวันนี้ไล่เขาออกไป
ไป ๆ ไอ้คุณเสร็งเคร็งเอ๊ย!!!
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ