วงจรธุรกิจมี “ตั้งไข่ เติบโต สุกงอมและถดถอย”
อย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่มีองค์กรระดับโลกที่ไหน
ไม่เคยผ่านช่วงลำบากสาหัสสากรรจ์มาก่อน
และหากคุณคิดว่าธุรกิจที่ทำ เกิดจากการวางแผน
มาดีแล้ว ไม่มีทางถดถอยหรือล่มสลายแล้วล่ะก็
สถานการณ์วันนี้กำลังเตือนว่า…”อาจคิดน้อยไป”
องค์กรที่ม้วนเสื่อกลับบ้าน หรือปิดกิจการ
ต่างเคยนั่งเรียนเขียน SWOT, BMC, 5 Forces
Model กันมาแทบทั้งนั้น ซึ่งถือว่าผ่านด่านสำคัญ
คือรบในกระดาษมาเรียบร้อยแล้ว
แต่ครั้นลงสนามจริง บททดสอบมันยากเกินที่เคย
เรียนรู้มาแบบสุดหิน แถมยังเดิมพันด้วยเม็ดเงิน
และเลือดเนื้อ หยาดเหงื่อ แรงใจแรงกาย
ทำให้เครียดทั้งวัน แม้หลับฝันยังเก็บไปคิด
วันนี้ถือว่า ได้บทเรียนเรื่อง การถดถอยของธุรกิจ
แบบไม่ทันตั้งตัว คงต้องปรับวิธีคิดใหม่ให้เร็ว
ไม่จมปรักอยู่กับปัญหาที่เกิดขึ้นมา และอย่าไป
คาดหวังคนอื่นให้มาก ตอนนี้ทุกคนยังเอาตัวเอง
แทบไม่รอด คงไม่มีเวลามาโอบอุ้มคนอื่นแน่
ผมยกตัวอย่างเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะ บริหารธุรกิจ
กับบริหารชีวิตมันก็ละม้ายคล้ายคลึง
เชื่อมั้ยครับว่า… ทุกองค์กรที่สามารถพลิก
สถานการณ์กลับมาได้เร็วนั้น เพราะปรับตัวเร็ว
และอาศัยคนภายในที่มุ่งมั่นร่วมใจกันแก้ปัญหา
ผมคัดเอกสารฉบับหนึ่งของบริษัท Huawei
มาฝาก เนื่องจากชื่นชอบเลือดนักสู้ของพวกเขา
ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เลยก็ว่าได้ ใจความว่า…
“Huawei ไม่มีการพึ่งพาอาศัยใด ๆ จากทรัพยากร
ภายนอก สิ่งเดียวที่เป็นที่พึ่งคือความมุมานะ
อุตสาหะของพนักงานทั้งหมด และการต่อสู้
กับความยากลำบากอย่างต่อเนื่อง”
ไม่ต้องแปลกใจที่ทำไมจึงสามารถครอง
ตลาดโลกด้านมือถือในอันดับต้น ๆ ได้สำเร็จ
ที่เล่ามาอยากจะกล่าวว่า… ชีวิตเราก็เช่นเดียวกัน
ต้องเริ่มปรับทัศนคติ เริ่มจากภายในของเราก่อน
งดดราม่ากับสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ในอดีต
แต่ทุ่มเวลาไปกับปัจจุบัน ที่ต้องลงมือทำอะไร
สักอย่างในทันที ไม่รีรอ ก่อนคู่แข่งจะคิดได้
หรือก่อนเงินในบัญชีจะเกลี้ยงเสียก่อน
เมื่อเราสุขใสจากข้างใน เราจะไม่ก้มหัวให้กับ
อุปสรรคใด ๆ อีกเลย
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ