“ไม่ร่วมทางไม่รู้ใจ แต่ได้ร่วมทางก็ใช่ว่าจะรู้ใจ”
เรื่องวิชาเอาตัวรอดนั้นจัดเป็นทักษะที่ต้องมี
ติดตัว หากไม่อยากโดนเขาเอาเปรียบจนตาย
ผมขอเล่าวิถีแห่ง Giver, Taker, Matcher
ใช้เวลาอ่านไม่นาน แต่อาจได้ข้อคิดเล็ก ๆ
น้อย ๆ ครับ
ที่บอกว่าได้ร่วมทางแล้วจะเริ่มรู้ใจนั้น
นั่นเพราะจะทำให้กระบวนการคัดกรอง
เริ่มทำงาน จะเริ่มรู้ว่าใครเป็นคนที่เห็นแก่ตัว
ใครเป็นคนจอมโกหก ฆ่าน้อง ฟ้องนาย
ขายเพื่อน จากการที่ได้ทำงานร่วมกัน
สิ่งที่จะช่วยกรองได้อีกตัว คือ เวลา
เพราะแรก ๆ มันก็อะลุ่มอล่วยกันทั้งนั้น
เหมือนช่วงทดลองงานไงครับ สั่งอะไรมาก็ทำหมด ไม่เคยบ่นเพราะอยากผ่านทดลองงาน
ซึ่งนำมาซึ่งรายได้และสวัสดิการ… ยอมแลก!
แต่เมื่อเวลาผ่านไป สักหนึ่งปีหรือเร็วกว่านั้น
ก็เริ่มออกลายมาให้เห็น ชนิดที่ว่าเหมือนกับ
กรรมเก่าที่ต้องมาร่วมงานกับคู่ปรับเดิม
พูดไปก็ปวดหัวตุ๊บ ๆ ละครับ
ในชีวิตจริง มันไม่ได้มีแค่เพื่อนร่วมงานน่ะสิ
มีทั้งคบเพื่อน คบแฟน แม้กระทั่งแต่งงานกันแล้ว
แม้จะร่วมทางกันมานับสิบปียังเปลี่ยนไปได้
ชีวิตจริงมันช่างโหดร้ายจริงเชียว
ตั้งสติกันให้ดี
ผู้ให้ Giver ให้มากไปก็เดือดร้อน เบียดเบียนตน
ผู้รับ Taker คิดแต่จะเอาอย่างเดียว ไม่แคร์ใคร
ผู้แลกเปลี่ยน Matcher สิแน่จริง ยื่นหมูยื่นแมว
ไม่มีอะไรฟรี ถ้าไม่คุ้มค่า ใครทำดีกับเรา
เราก็ตอบแทน ส่วนใครร้ายมากก็โต้ตอบบ้าง
ให้มันรู้ว่าเราเป็นใคร จุดยืนคืออะไร ชัด ๆ เลย
หวังว่าการเดินทางของทุกท่านจะเป็นเรื่องสนุก
นะครับ เหนือสิ่งอื่นใดรักษาสุขภาพกันด้วย
เดี๋ยวจะเที่ยวสงกรานต์ไม่สนุกนะ
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ