สละความสบายไว้ชั่วครู่

ความสุข​ ความสบายใจ
เป็นสิ่งที่ใคร​ ๆ​ ก็ล้วนปรารถนา
น่าเสียดายที่มันไม่ใช่สมบัติ​ส่วนตัวของใคร
มัน​อยู่​ให้เชยชมแค่ชั่วครู่แล้วก็จากเราไป
ทิ้งไว้เพียงแค่ความทรงจำ​

การที่เราจะประสบความสำเร็จ​ในด้านใดก็ตาม
เราต้องสละความสุข​ ความสบายไว้ชั่วครู่ก่อน
หรือพูดอีก​อย่าง​คือ​ มุ่งมั่น​พิชิตเป้าหมาย​ให้ได้
ถึงเหนื่อยก็ยังไม่สู้ต่ออีกนิด​ ไม่คิดล้มเลิก
กลางคัน​ เหมือนฟุตบอล​ที่ต่อเวลาพิเศ​ษ
แม้เหนื่อยแทบตายก็ห้ามถอดใจเดินออก
จากสนาม

ทำไมคนที่ประสบความสำเร็จ​ที่ยิ่งใหญ่​ได้
เมื่อเวลาผ่านไปก็มักจะประสบความสำเร็จ​
ครั้งต่อไปในเรื่องใหม่อีกหลายครั้ง ?

นั่นเพราะเขาได้บ่มเพาะนิสัยเชิงบวกขึ้นมา
โดยไม่รู้ตัว​ ซึ่งนิสัยเชิงบวกนี้เป็นผลจาก
การที่เรามุ่งมั่นตั้งใจทำการใดให้สำเร็จ​ลุล่วง
​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ จนมันทำให้จิตของเรา
แข็ง​แรง​เป็นปึกแผ่นเหมือนกล้ามเนื้อ​
ที่ได้รับการฝึกฝน(มีสมาธิ​ จดจ่อจนงานสำเร็จ​)​

ต่างจากคนที่ติดสบาย​ ผัดวันประกันพรุ่ง​
ทำงานได้ไม่กี่อึดใจก็วอกแวก​
เอะอะก็หาเรื่องพักผ่อนหย่อนใจ​
ใช้เวลาส่วนใหญ่​ไปกับการท่องโลกภายนอก
แต่ไม่เคยให้เวลาจัดการโลกภายใน
ซึ่งโลกภายในนั้นถือเป็นทุกอย่างของชีวิต
ดังคำกล่าวจิตเป็นนาย​ กายเป็นบ่าว

ที่ผมพูดมามันคือการอดเปรี้ยว​ไว้กินหวาน
เสียสละความสุขสบายในระยะสั้น​
เพื่อความสุขสบายในระยะยาว
เหมือนออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณ​นั่นแหละ
ออมน้อยมีน้อย​ ออมมากมีมาก​ ไม่ออมก็อด
คนส่วนใหญ่​เข้าใจแต่ไม่ยอมเริ่มต้นลงมือ

จึงถือโอกาสนี้ได้บอกกล่าวเล่าแจ้งมิตรสหาย
เหนื่อยก็พัก​ หนักก็วาง​ แต่ต้องไม่เข้าข่าย
พักยาวหรือเกียจคร้าน​ แบบนี้เป็นอันตราย
ต่ออนาคตอย่างยิ่ง​ ถามว่าอนาคตของใคร
ก็อนาคตของเราเองไงครับ!

ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
www.thanaban.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *