สัญ​ชาตญาน

ชายคนหนึ่งเห็นเจ้างูที่กำลังจะตายจาก
ไฟป่า จึงตัดสินใจเข้าช่วยเหลือ​ทันที
ผลจากการยื่นมือเข้าช่วยเหลือ​ครั้งนี้
ทำให้เขาได้แผลจากการฉกอย่างเลี่ยง​ไม่ได้​
ชายคนหนึ่งเห็นเจ้างูที่กำลังจะตายจาก
ไฟป่า จึงตัดสินใจเข้าช่วยเหลือ​ทันที
ผลจากการยื่นมือเข้าช่วยเหลือ​ครั้งนี้
ทำให้เขาได้แผลจากการฉกอย่างเลี่ยง​ไม่ได้​
ชายคนหนึ่งเห็นเจ้างูที่กำลังจะตายจาก
ไฟป่า จึงตัดสินใจเข้าช่วยเหลือ​ทันที
ผลจากการยื่นมือเข้าช่วยเหลือ​ครั้งนี้
ทำให้เขาได้แผลจากการฉกอย่างเลี่ยง​ไม่ได้​
ชายคนหนึ่งเห็นเจ้างูที่กำลังจะตายจาก
ไฟป่า จึงตัดสินใจเข้าช่วยเหลือ​ทันที
ผลจากการยื่นมือเข้าช่วยเหลือ​ครั้งนี้
ทำให้เขาได้แผลจากการฉกอย่างเลี่ยง​ไม่ได้​
ชายคนหนึ่งเห็นเจ้างูที่กำลังจะตายจาก
ไฟป่า จึงตัดสินใจเข้าช่วยเหลือ​ทันที
ผลจากการยื่นมือเข้าช่วยเหลือ​ครั้งนี้
ทำให้เขาได้แผลจากการฉกอย่างเลี่ยง​ไม่ได้​
ชายคนหนึ่งเห็นเจ้างูที่กำลังจะตายจาก
ไฟป่า จึงตัดสินใจเข้าช่วยเหลือ​ทันที
ผลจากการยื่นมือเข้าช่วยเหลือ​ครั้งนี้
ทำให้เขาได้แผลจากการฉกอย่างเลี่ยง​ไม่ได้​
ชายคนหนึ่งเห็นเจ้างูที่กำลังจะตายจาก
ไฟป่า จึงตัดสินใจเข้าช่วยเหลือ​ทันที
ผลจากการยื่นมือเข้าช่วยเหลือ​ครั้งนี้
ทำให้เขาได้แผลจากการฉกอย่างเลี่ยง​ไม่ได้​
ชายคนหนึ่งเห็นเจ้างูที่กำลังจะตายจาก
ไฟป่า จึงตัดสินใจเข้าช่วยเหลือ​ทันที
ผลจากการยื่นมือเข้าช่วยเหลือ​ครั้งนี้
ทำให้เขาได้แผลจากการฉกอย่างเลี่ยง​ไม่ได้​

เมื่อได้รับบาดเจ็บ​ ด้วยสัญ​ชาตญานในการ
ป้องกัน​ตัวจึงทำให้ชายคนนี้สลัดเจ้างู
เข้าสู่กองไฟเช่นเดิม​

แต่หลังจากนั้นชายคนนี้ได้รีบเร่งหากิ่งไม้​
ใกล้ตัวมาเขี่ยเจ้างูเพื่อให้พ้นจากกองไฟ

เหตุการณ์​นี้ไม่พ้นสายตา​ของสหายใกล้ชิด​
ที่อดสงสัยไม่ได้​ จึงถามออกมาว่า​

“รู้ทั้งรู้… ว่างู​มันร้าย​ ไฉนเจ้าจึงยังยื่นมือช่วย​เหลืออีก​, ไม่เข็ดหลาบรึ ?”

ชายผู้นี้ตอบไปอย่างจริงใจว่า
“สัญชาตญาณ​ของงูคือการฉกกัดเพื่อป้องกันตัว​
และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น​โดยธรรมชาติ​

เช่นเดียวกัน​ ฉันจะไม่ทิ้งศักดิ์​ศรี
ความเป็นมนุษ​ย์(สัตว์​ประเสริฐ)​
นั่นคือ​ การยื่นมือช่วยเหลือ​ตามกำลังที่มี”

เหตุการณ์​นี้ยกมาเพื่อเสริมกำลัง​ใจ​ให้กับ
ผู้มีทัศนคติ​ที่ดีและผู้ที่ไม่เหน็ดเหนื่อย​
กับการช่วยเหลื​อผู้อื่นและผู้ด้อยโอกาส​

อย่าย่อท้อกับอุปสรรค​เพียงเพราะแค่บางคน
ไม่ยอมรับและทำร้ายเรา​ แต่จงรักษาความดี
ด้วยการเป็นผู้ให้ที่ฉลาดเฉลียว​

พึงระวังการหลับหู​หลับตาช่วยเหลือไปทั่ว
จนท้ายสุดเข้าตำรา​ “ชาวนากับงูเห่า”
ซึ่งผมคงไม่ต้องเล่าเนื้อเรื่อง​ต่อ​
เพราะทุกท่านต่างรู้จักเรื่องเล่าสุดคลาสสิก​
นี้เป็น​อย่างดี

ข้อคิดที่นำมาฝากกันวันนี้​ คือ​ คนกับสัตว์นั้น
แตกต่างกัน​ สัตว์นั้นสู้เพื่อเอาตัวรอด​
มันต้องกินต้องอยู่​และรักษาชีวิต ส่วนม​นุษย์​
นั้นก็คล้ายคลึง​กัน​ แต่ต่างกันตรงที่คนเรา
ห้ำหั่น​กันเพื่อพ่วงผลประโยชน์​มิรู้จบ
มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์​และมีทีท่า
จะเป็นแบบนี้เรื่อยไป​จนมนุษย์​คนสุดท้าย
หมดลมหายใจ​

จริงมั้ยครับ​ ?

ขอบคุณ​ครับ​
ธน​บรรณ​ สัมมาชีพ​
ขอบคุณเค้าโครง​บทความและภาพ
จากเพจ​ Solidao

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *