หลายต่อหลายคนที่ดูเหมือนว่าจะเก่งกว่าเรา
ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เสมอไปนะครับ บางทีเขา
เหล่านั้นอาจจะแค่ “หาเงินเก่งกว่าเรา”
เอาล่ะสิ… เปิดหัวเรื่องหาเงินเข้ากระเป๋าสักหน่อย
เผื่อใครคิดขยับขยาย เตรียมรับทรัพย์ทุกปีไป
เขาบอกว่าการหาเงินเก่งนั้น มันเป็นทักษะ
ไม่ใช่พรสวรรค์ เมื่อมันเป็นทักษะแสดงว่ามันฝึกได้
ถ้าใครฝึกหาเงินตั้งแต่อายุยังน้อยจะโคตรได้เปรียบ
เพราะยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งชำนาญการมากตามด้วย
#สำคัญคือครั้งแรกครับ
ครั้งแรกมันจะยากบัดซบ(ขออนุญาตพูดแรง
จะได้อินครับ) คือ ยังไม่ลงมือทำก็จินตนาการถึง
จุดจบซะแล้ว เช่น…
>>อะไรจะเกิดขึ้นถ้าเราขายไม่ดี ?
>>อะไรจะเกิดขึ้นถ้าลูกค้าไม่ปลื้มสินค้าของเรา ?
>>ทำไปสักพักคู่แข่งก็เลียนแบบ ถอยดีกว่ามั้ย ?
พอ ๆ ครับ เลิกจินตนาการแบบนั้น
อย่าไปกลัวจนสมองฝ่อเลยครับ
เรากังวลบ้างก็ไม่ติดอะไรหรอก ถือว่าเป็นการ
บริหารความเสี่ยงและไม่ประมาทไป
ทีนี้ลองลุยต่อพร้อมบอกตัวเองแบบนี้บ้าง
>>อะไรจะเกิดขึ้นถ้าเราขายดีแบบเทน้ำเทท่า
>>อะไรจะเกิดขึ้นถ้าลูกค้าปลื้มสินค้าและบริการ
ของเราจนขอซื้อแฟรนไชส์
>>อะไรจะเกิดขึ้นถ้าเราคิดสูตรลับ ที่ใครก็เลียนแบบ
ไม่ได้ จนใคร ๆ ก็มอบตำแหน่งผู้นำตลาดให้
คือมันเป็นทักษะการคิดของคนหาเงินเก่งไงครับ
และอะไรก็ตามที่คิดว่ามันยากน่ะ ให้ทำบ่อย ๆ
จนมันกลายเป็นง่ายให้ได้ เพราะอย่าลืมว่า
มนุษย์เรามักหันหลังให้ความยากกันทั้งนั้น
อยากหาเงินเก่งจึงต้องฝึกทำเรื่องยากให้เป็น
เรื่องง่ายให้ได้ ด้วยเหตุผลง่าย ๆ ว่า คนทั่วไป
จะจ่ายเงินให้กับใครก็ตามที่แก้ปัญหาให้เขาได้
เมื่อสองปีก่อน ผมเองก็พยายามหาเงินครับ
นอกจากรายได้จากงานประจำแล้ว ผมก็เขียน
หนังสือ เป็นวิทยากรทั้งออนไลน์และสอนสด
ตอนนั้นก็เริ่มจากศูนย์นะ
เข้าเรียนหลักสูตรสร้างนักเขียน
ส่วนการเป็นวิทยากรนั้นฝึกเองจาก YOUTUBE
เน้นทำจริง เจ็บจริง พัฒนาจริง จนเป็นทักษะติดตัว
จนวันนี้มีรายได้หลายช่องมากขึ้น
ส่วนปีหน้านี่ จัดเต็มกว่าเดิมแน่นอน
เพื่อที่จะได้เป็นแรงผลักดันให้กลุ่มคนขยันด้วยกัน
เก่งแต่งานคงไม่พอ ต้องเก่งหาเงินด้วย
เงินนั้นไม่ใช่ปัจจัยสี่
#แต่ปัจจัยสี่นั้นล้วนต้องใช้เงินซื้อครับ
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ