อย่ามัวแต่คอยรีวิวชีวิตคนอื่น

อย่ามัวแต่คอยรีวิวชีวิตคนอื่นบนโลกโซเชียล
เหมือนที่คนส่วนใหญ่​เขาทำกันอยู่อีกเลย
แน่นอนว่าบางครั้งมันก็ฆ่าเวลาได้เพลินดี
แต่นั่นหมายถึงเราเองก็กำลังสูญเสีย​สิ่งที่มีค่า
มากที่สุดในโลกที่เราเรียกมันว่า”เวลา”
เป็นการแลกเปลี่ยนอยู่​ดี

เป็นที่ทราบกันดีว่าคนหลายพันล้านคนบนโลก
ใช้ชีวิตอยู่​ในโลกสองใบคือโลกแห่งความจริง
และโลกโซเชียล​ จึงไม่แปลกที่ทุกวันนี้เราจะพบ
คนที่ดูเหมือนจะดูสมบูรณ์​แบบในโลกโซเชียล
แต่ในชีวิตจริงกลับเป็นคนละคน​ เช่น

หลายคู่ชีวิต​ ที่มีภาพสวย​ ๆ​ บนเฟซบุ๊ค​ ไปเที่ยว
ด้วยกัน​ ดินเนอร์​กันถี่​ แต่ชีวิตจริงกลับเตียงร้าว

คนทำงานหลายคนที่มีภาพกิจกรรมเยอะ​
ดูน่าเชื่อถือ​ แต่ตัวจริงนั้นกลับไม่ได้เก่งตามคำอวด
เพราะเมื่อได้ร่วมงานกันจริง​ ๆ​ กลับกลายเป็นว่า
เป็นสิงห์เล่าเรื่อง​ แต่ชีวิตจริงไม่ค่อยมีผลงาน
หรือผลงานแค่ระดับพื้น​ ๆ

แม้กระทั่งสินค้า​หรือโฆษณาบางตัวก็ทุ่มงบสูง
ในการสร้างภาพลักษณ์​ให้คนจดจำ​ จนอาจลืมไปว่า
ต้องใช้งบในการพัฒนาตัวสินค้าให้ควบคู่​กันไปด้วย

ผมเองก็เป็นที่ใช้ชีวิตแบบควบคู่ทั้งสองโลก
เหมือนคนส่วนใหญ่​ ซึ่งยอมรับว่าใช้ชีวิตส่วนหนึ่ง
ในการออนไลน์​ไม่แพ้กัน​ ผมทำเพจขึ้นมาสองเพจ
เพื่อแบ่งปันความรู้​มอบสู่กันอ่านทุกวันตามเวลา
จะเอื้ออำนวย

ส่วนในเฟซบุ๊คส่วนตัว​ ผมเองก็คนนึงที่หลายครั้งรู้สึกเหนื่อย​ล้าผิดหวัง​ เสียใจ​ แต่จะรู้ทันจิตตัวเองและ
ดึงสติกลับมา​ รวมทั้งบอกตัวเองว่าจะไม่อัพสถานะอะไรแนวเชิงลบ​ เช่น​ ด่าลอย​ ๆ​ ลงหน้าโซเชียล
เพราะนอกจากจะไม่ได้อะไรแล้ว​
ยังทำให้วุฒิ​ภาวะของคนโพสดูมีปัญหา​ทันที

นั่นแสดงว่า​ ทุกครั้งที่เห็นหลายคนบนโลกโซเชียล
มีความสุข​ ยิ้มแย้ม​แจ่มใสนั้น​ ความเป็นจริงอาจ
ไม่ใช่ตามที่เห็นกันเสมอไป​ เพราะแคปชั่นบางอัน​ ก๊อปปี้เขามา​ หรือรูปบางรูป​ ถ่ายไว้นานแล้ว
มันไม่ได้เกิดขึ้นในขณะนั้น​ แถมส่วนใหญ่ผ่านการ
ปรุงรส​ ปรุงแต่ง​มาก่อนไม่รู้​กี่ครั้ง

ที่เล่ามาทั้งหมดแค่อยากบอกว่า
ใช้เวลาในการรีวิวชีวิตคนอื่น​ให้น้อยลง
หันมารีวิวชีวิตตัวเอง​ เกาะติด​ชีวิต​ตัวเองให้มากขึ้น

ศาสตร์​ของขงจื๊อ​เองยังสอนว่า​ “รู้เขา​ รู้เรา… ฯ”
วันนี้ทุ่มเวลาให้กับการรู้เรามากขึ้นสักนิด
แล้วเราจะมีชีวิตทั้งสองโลกอย่างมีความสุขครับ

ขอบคุณ​ครับ​
ธน​บรรณ​ สัมมาชีพ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *