มีอินทรีตัวหนึ่งโบยบินล่าเหยื่อด้วยความหวัง
ร่างกายของมันต้องการอาหารเพื่อประทังชีวิต
เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยหลายวัน
ทันใดนั้นสายตาอันแหลมคมเหลือบไปเห็น
งูจงอางยักษ์ตัวมหึมาที่โขดหิน
ในใจคิดเพียงว่าวันนี้คงรอดเพราะอาหารรสโอชะ
ได้นอนพาดอยู่พื้นดินเบื้องล่าง
ด้วยความหิวโหยจึงต้องโฟกัสเป็นพิเศษ
ว่าโอกาสนี้คงพลาดไม่ได้
คิดได้ดังนั้นก็บินโฉบลงมาจู่โจมงูจงอางทันที
งูจงอางเองก็รู้สึกถึงรังสีอำมหิต
พลิกตัวหลบอย่างว่องไว
และเพื่อไว้ลายชาติงูพิษจึงขอตอบโต้ไม่ให้เสียชาติเกิด
“ป๊าบ”
เสียงฉกของงูจงอาง
มันกัดเข้าตรงลำตัวของอินทรีแบบตั้งใจ
และไม่พลาดเสียด้วย
อินทรีที่เป็นเจ้าเวหา
ถึงคราวต้องชีวิตดับลงเพราะทนพิษไม่ไหว
สุดท้ายกำลังจะกลายเป็นอาหารของงูจงอางซะเอง
ก่อนสิ้นลมอินทรีเจ้าเวหากล่าวว่า
“กูนี่…โชคไม่ดีเอาเสียเลย
อุตส่าห์เจออาหารเข้าแล้ว
แต่ต้องมาตายเพราะอาหารเสียเอง”
เพื่อน ๆ ครับ
เพื่อให้ได้บางสิ่ง บางอย่างมาครอบครอง
เราถึงกับต้องทุ่มเทหมดหน้าตักโดยไม่คิดชีวิต
หลายครั้งที่ขาดความรอบคอบ
แล้วนำมาซึ่งความเสียหายมากมาย
อยากได้หน้าที่การงาน ตำแหน่ง
ทำงานจนลืมดูแลสุขภาพ
ลืมความสำคัญของครอบครัว
อยากได้การยอมรับจากฝูงชน
จนลืมความเป็นตัวของตัวเอง
อยากได้ทรัพย์สินเงินทอง
จนบางคน(ย้ำว่าบางคน)
ต้องทุจริต คอรัปชั่น โกงได้โกงดี
นิทานเรื่องนี้ไม่ได้สอนอะไรมาก
แค่หยิบมาเตือนในจังหวะของชีวิต
หลายครั้งที่เราคิดได้
แต่ต้องอาศัยความพยายาม
และมีวินัยขับเคลื่อนบวกกับประสบการณ์ชีวิต
บางอย่างพลาดได้ ไม่ถึงกับตาย
รอให้เราแก้ไขหรือกลับมาฟื้นฟูได้
และแน่นอนบางอย่างมันพลาดแล้ว พลาดเลย
ดั่งเจ้าอินทรีที่ตายแล้ว ตายเลย
ขอบคุณครับ