เขาวงกต

หากเคยผ่านตาภาพยนตร์ The Maze Runner
หรือเรื่องสั้น Who moved my cheese ?
ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตเขาวงกตมาบ้าง
น่าจะพอเดาออกว่าผมจะพูดเกี่ยวกับอะไร

เมื่อผมนำข้อคิดจากภาพยนตร์มาเปรียบเทียบกับการทำธุรกิจหรือชีวิตการทำงานแล้วนั้น อธิบายให้เกิดภาพ ได้ดังนี้

เอ่ยถึง เขาวงกต
บางคนไม่กล้าแม้แต่จะก้าวเข้าไป และเมื่อ
ได้ก้าวเข้าไปแล้วปรากฏว่า…
– บางคนใช้เวลานานแสนนาน
กว่าจะหาทางออกได้
– บางคนใช้เวลาไม่นานก็หาทางออกเจอ

แต่ที่ร้ายสุด คือ หลายคนใช้เวลาตลอดชีวิต
ติดอยู่ในนั้น กลับตัวก็ไม่ได้ ไปต่อก็ไม่ถึงฝั่ง
เมื่อเสบียงอาหารหมด อาวุธยุทโธปกรณ์เกลี้ยง
ก็นั่งรอความตายอย่างช้า ๆ

======
โลกการทำงานนั้นหรือ
ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพเขาวงกต
เปรียบเหมือนเรื่องใหญ่ที่ต้องตัดสินใจ,
ด่านที่ต้องฝ่า ,ภาระกิจที่ต้องเผชิญ

มันจะมีกลุ่มผู้นำที่กล้าหาญ
ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ แต่กล้าตบเท้าย่างก้าวสู่
เขาวงกตหรือสังเวียนการแข่งขันเต็มภาคภูมิ
วันนี้มีข้าวปลาอาหารสมบูรณ์ แต่วันหน้า
นั้นไม่แน่ไม่นอน ทรัพยากรอาจหมดหรือ
โดนแก่งแย่ง ต้องไม่พอใจความสำเร็จเดิมๆ
นานเกินไป

ทุกเช้าในการออกสำรวจเขาวงกตนั้น
ต้องเจอทางตันบ้าง นั่นเป็นเรื่องธรรมชาติ
เหมือน​ชีวิตพนักงานขายที่ต้องเจอคำปฏิเสธ
จนเป็นเรื่องเคยชิน แต่ต้องไม่ยั้งหยุดความพยายาม

การรับมือกับทางตันนั้นโดยการทำเครื่องหมาย
บ่งบอกว่าเส้นทางนี้ไปต่อไม่ได้
ผู้ตามมาทีหลังจะได้ไม่เสียเวลา
และข้ามไปใช้เส้นทางใหม่ได้เลย

ในชีวิตการทำธุรกิจหลายคนเสียเวลา
กับปัญหาเดิม ๆ ที่กลับมาหลอกหลอนอีก
เพราะไม่ศึกษาจากบทเรียนแสนเจ็บ
ทั้งๆ ที่ปัญหาเหล่านี้เคยมีคนแก้สำเร็จมาแล้ว
แต่เมื่อตัวเองขาดการเรียนรู้จากกรณีศึกษาเดิม
ก็ต้องมาพลาดหลงเดินทางเข้าทางตันอีกจนได้

======
อย่างไรก็ตาม
จงเปรียบเทียบว่ามันคือการทำวิจัยชิ้นหนึ่ง
เราเรียนรู้อะไรบ้างจากงานวิจัยชิ้นนี้
เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบติดกับดักเดิมๆ หรือไม่ ?

หากคำตอบคือ ไม่

เราจะไปถึงปลายทางหรือเส้นชัยได้
ก่อนคนอื่นขอแสดงความยินดีด้วยนะ

ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *