คนที่เราไม่ชอบหน้านี่แหล่ะ
มีส่วนในความสำเร็จของเราเป็นอย่างมากถึงมากที่สุดเอ๊ะ ยังไง ?
คนที่เราไม่ชอบหน้ามักมีเรื่องมาตำหนิติเตียนเราอยู่เสมอ…
เมื่อติเตียนมา เราก็ต้องแก้ไขไปหากผลงานมันเป็นตามที่เขาเล่ามาจริง ๆ
(ข้อเท็จจริงมันฟ้อง)
คนที่เราไม่ชอบหน้ามักดูถูกดูแคลนเราซะเหลือเกิน…
แต่คนเรามีมือมีเท้าเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะครับ อย่าอยู่เฉยเมื่อดูถูกมา
เราก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้เห็นสักหน่อย ว่าแกน่ะ ดูผิดเว้ย!
คนที่เราไม่ชอบหน้ามักพูดจี้ใจดำไปทั่วหากเราทำหูทวนลมได้
อืมม์ มันก็ไม่เครียดนะแต่หากนำมาเป็นข้อมูลไว้ใช้พัฒนาตัวเอง
มันก็ได้ประโยชน์อย่างเหลือล้นเลยเหมือนคำกล่าวของแม่ทัพใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งผมจำชื่อไม่ได้แล้วล่ะ
ท่านกล่าวไว้”ขอบคุณศัตรูผู้ร้ายกาจ ที่ทำให้เรารู้ซึ้งว่ากองทัพของเรายังอ่อนหัดอีกเพียงใด”
ในทางกลับกัน…หากเราเก็บคำของคนที่เราไม่ชอบหน้ามาใส่ในหัวมากเข้า ๆ
ทำให้เครียดจัดพาลให้คิดมากเกินจำเป็น เข้าข่ายหมกมุ่นอยู่กับความคิดลบ ๆ
วนอยู่นั่นแหละอันนี้ต้องรีบจัดการให้อยู่หมัด
โดยยึดแนวคิดที่ว่าทุกคำติหรือคำดูถูก มันคือความท้าทายหรือเรียกง่าย ๆคือ
“วัตถุดิบสู่ความสำเร็จ” เหมือนที่ทุกธุรกิจนำ pain point ของลูกค้ามาขยายความต่อ
เพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการใหม่ ๆ นั่นเองครับ
คิดได้แบบนี้จะมีกำลังใจเดินต่อใช้พลังลบเป็นแรงผลักดัน
ไปสู่ฝันที่ยิ่งใหญ่พรุ่งนี้เจอหน้าใครที่ไม่ชอบหน้าก็ยิ้มให้เขาไปพูดแบบแมน ๆ นะ
… ผมใช้เทคนิคนี้ทุกวัน 555แล้วคุณล่ะครับ ?
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ