ฝีมือที่ยังไม่โดนพิสูจน์ มันก็อาจเป็นแค่ฝีปาก
และฝีปากก็เป็นทักษะอย่างนึงที่ทำให้หลายคน
ได้งานทำ เหมือนตอนที่รับคนเข้าทำงานใหม่ ๆ
ซึ่งคัดคนจากการดูใบสมัครและสัมภาษณ์เบื้องต้น
กว่าจะรู้ซึ้งถึงฝีมือก็ต้องให้ผ่านการทดลองงานก่อน
พอผ่านทดลองงานมันก็แค่ด่านแรกเท่านั้นครับ
เหมือนการตกลงปลงใจแต่งงานกันหลังจากคบหา
กันมาระยะหนึ่ง แต่ชีวิตคู่มันเพิ่งจะออกสตาร์ต
คนที่ทำงานด้วยกัน ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน
เป็นแรมปีถึงสัมผัสตัวตนของเพื่อนร่วมงานได้
ซึ่งแบบนี้เราเรียกรู้ลึก พอรู้ลึกก็สามารถวิเคราะห์
ได้และนำไปต่อยอดได้ เช่น เจ้านายใช้หลักการ
Put the right man on the right job.
(วางคนให้ถูกกับงาน)
หากเป็นในชีวิตประจำวันเราก็จะได้แยกแยะ
ว่าคนรอบข้างคนไหนน่าคบบ้าง , ใครอาศัยได้
หรือใครที่อาศัยไม่ได้เลย ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็น
เช่นที่กล่าวกันว่า “คบคนพาล พาลพาไปหาผิด
คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล”
โลกปัจจุบันนี้ จะเป็นลักษณะรู้กว้างซะมากกว่ารู้ลึก
เราเห็นภาพกว้างหลายต่อหลายคนผ่านโซเชียล
เราก็ตัดสินใจซื้อขาย หรือคบหาเจรจาด้วย
บทความนี้เลยขอฝากไว้สักหน่อยว่า
จะว่าจ้างก็ดี จะเลือกคู่ค้าก็ดี จะเลือกพันธมิตรหรือ
หุ่นส่วนก็ดี อย่าดูแค่ฝีปากหรือลมปากเท่านั้น
แต่ให้ลงลึกไปอีกว่าผลงานของเขาในอดีตที่ผ่านมา
นั้นเป็นเช่นไร จับต้องได้หรือไม่ ?
หาไม่แล้วเราก็จะโดนรายล้อมด้วยคนที่ดีแต่พูด
มันคือสุดยอดแห่งการปวดกระดองใจเลยล่ะครับ
ขอบคุณมากครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ