เด็กต่างจังหวัดมาหากินในเมืองกรุงอย่างผม
เงินเดือนแรกที่ได้สัมผัส คือ 7,500 บาทครับ
(ใช้วุฒิปวส.สมัคร)สวัสดิการก็ไม่มีอะไรเลย
หน้าที่คือทำทุกอย่างที่รับคำสั่งของนาย
ที่หลั่งไหลมาทั้งในเวลาและนอกเวลางาน
ในเวลา คือ…
ถ่ายรูปสินค้าแล้วเอาเข้าแคตตาล็อก
สินค้าคือเสื้อผ้าครับ(อยู่โรงงานผลิตเสื้อผ้า)
มีอยู่ครั้งหนึ่งผมโดยนายบ่น
“ยูว์ถ่ายรูปเสื้อผ้า… ทำไมไม่รีดก่อน”
แหมก็ใครจะไปรู้ล่ะครับ แต่ละวันแค่ถ่ายรูป
แล้วรีทัช มันก็แทบไม่ทันแล้วนะ จะให้ผม
ไปรีดเสื้อผ้าทุกตัวก็ตายพอดี (ยกตัวอย่าง
เดียวพอนะ… เพราะบริษัทเล็ก ๆ ปัญหาเยอะ
เล่าไม่จบหรอก)
นอกเวลา คือ…
ไปกินเหล้ากับหัวหน้าแผนก/ฝ่ายครับ
คอยชงเหล้า รับฟังเรื่องนินทาที่พรั่งพรูออกมา เปรียบดังผงชูรสหรือยาสลายความลับ
ส่วนตัวผมก็ต้องตามน้ำไป ดีที่ว่าเป็นคนเก็บความลับเก่งจึงมีคนชวนบ่อย
ออกแนว “เมาจัง… ตังค์อยู่ครบ”
ชีวิตช่วง First Jobber นั้นสะบักสะบอมสุด ๆ ทำงานหาเงิน แต่ไม่เคยเหลือเก็บ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ดีเด่อะไรเลย กินเหล้าเมาแล้วแฮ้งเป็นอาจิณ(อาเจียร)
วันรุ่งขึ้นผมก็โดดงาน
วันไหนขี้เกียจทำงาน ลาป่วยซะเลย
วันไหนขยันหน่อยก็รีบมาตอกบัตร
แล้วนั่งกินข้าวต่อสักชั่วโมงก่อนเริ่มงาน
อยากให้หัวหน้ารัก ก็ชงกาแฟ ชงเหล้าเก่ง
เฮ้ย… มองย้อนไปแล้วโคตรขำตัวเอง
ทุกวันนี้ลุกขึ้นมาเขียนบทความให้ทุกคน
โฟกัสแต่สิ่งที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จ
แต่ด้วยความหวังดีจริง ๆ ผมเองก็เป็นคนสามัญ
สิ่งที่ดีของผมจะเป็นวัตถุดิบให้ทุกคนหยิบใช้
ส่วนสิ่งที่เลวร้าย ให้เก็บไว้เป็นอุทาหรณ์
ทุกวันนี้เจอเด็กรุ่นใหม่จึงได้แค่ยิ้มครับ
พี่เคยผ่านประสบการณ์แบบพวกเอ็งมาก่อน
ไม่ใช่ว่าแบบผีเห็นผีนะ แค่อยากบอกว่า
“ใช้ชีวิตให้สุดเถิด อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
แต่จะให้ดีที่สุด จงรักษาตัวรอดให้ได้”
เพราะทางมันยาวไกล อย่าด่วนชีวาวาย
ด้วยความเครียดเลย
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
www.thanaban.com
======
ภาพจาก Thanaban โดย Midjourney