Never, never, never give up!

Never, never, never give up!
– Winston Churchill

ชีวิต…อาจทำให้เราล้มไปบ้าง
แต่เราเลือกได้ว่าจะยอมแพ้ หรือลุกขึ้นสู้
– Jackie Chan

ผู้เขียนอ่านหนังสือแนวแรงบันดาลใจ
ข้อคิดจากบุคคลที่ประสบความสำเร็จ
มามากมาย ทั้งแบบเป็นการ์ตูนสำหรับเด็ก
หรือหนังสือฮาวทูสำหรับผู้ใหญ่

มีเรื่องราวของการไม่ยอมแพ้ต่อ
อุปสรรคต่างๆของเหล่าคนดังที่ประสบความสำเร็จ
ที่ล้มเหลวมากๆมาก่อน เช่น สตีฟ จ็อบส์, โอปรา วินฟรี, อับราฮัม ลินคอล์น, วอลต์ ดิสนีย์ เป็นต้น

การไม่ยอมแพ้ซะก่อนที่จะถึงเส้นชัยนั้น
เป็นเรื่องสำคัญมากๆ เพราะเราไม่รู้ว่าเรา
ใกล้ถึงเส้นชัยแค่ไหนแล้ว ถ้ายอมแพ้ไปก่อน
ทุกอย่างก็จบ

แต่ถ้าคิดจะสู้ต่อ เราก็ยังไม่ล้มเหลวจริงๆ
ยังมีสิทธิ์ที่จะสำเร็จได้อยู่ สู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ตาย
ดังนั้นขอสู้ดีกว่า

ผู้เขียนเองไม่เคยคิดว่าคุณสมบัตินี้จะมีอยู่ในตัวเอง
หลังจากที่ต้องเผชิญกับปัญหาครั้งใหญ่ในชีวิต
ที่ทำให้ค้นตัวเองเจอ รู้จักตัวเองมากขึ้น ว่าเราสู้แค่ไหน

#ลางร้ายเริ่มปรากฏ
สมัยเด็กผู้เขียนเคยเล่นดนตรีอยู่วงดุริยางค์ของโรงเรียน เคยสาบานกับรุ่นพี่ว่าจะไม่ออกจากวงดนตรีจนกว่าจะจบม.6

แต่ผู้เขียนได้ออกจากวงตอนจะขึ้นม.3 ทำให้
เมื่อผิดคำสาบานแล้วก็รู้สึกว่าได้เกิดเรื่องแปลก ๆ
ขึ้นกับตัวเรา สัมผัสได้ว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นหลายๆอย่างในชีวิตประจำวัน และคิดมากเวลาที่เกิดเรื่อง
ไม่ดีขึ้น

ผู้เขียนลองปรึกษาคุณแม่เรื่องคำสาบาน
ลองขอดูว่าจะกลับเข้าไปอีกครั้ง เพราะรู้สึก
กลัวมาก ๆ แต่แม่ไม่อนุญาต เวลาแห่งความกลัวก็ล่วงเลยมาจนถึงชั้นม.5

ทุกอย่างดูหนักขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าอยู่ ๆก็เกิดเรื่องแปลก ๆขึ้นอีก นิสัย และบุคลิกของผู้เขียนก็เปลี่ยนไป ราวกับเป็นคนละคน ก็คิดว่าต้องเป็นเพราะผิดคำสาบานแน่ๆ

ถ้านิสัยที่ดีๆหายไปเรื่อยๆแบบนี้ อนาคตเราจะอยู่อย่างไร จะเป็นอย่างไร อนาคตจะต้องไม่ดีแน่ๆ รู้สึกเหมือนทุกอย่างพังทลายลง

เวลาแห่งความเครียด ทุกข์ทรมานก็ผ่านไปจนผู้เขียนจบม.6 แล้วไม่ได้กลับเข้าวงดนตรี ไม่ได้กลับไปทำตามที่สาบานไว้ ก็ยิ่งเครียดเพราะมันหมดทางแก้แล้ว เราจะต้องเป็นคนขาดๆเกินๆแบบนี้ไปตลอดชีวิตแน่ๆ

#พยายามแก้ปัญหา
เคยไปปรึกษาจิตแพทย์ หมอก็ยังไม่รู้เลยว่าเราป่วยเป็นโรคอะไร เพียงแต่ให้ยามากินก่อนเท่านั้น ก็ยิ่งคิดว่าเป็นเพราะคำสาบานเข้าไปอีก แถมกินยาแล้วไม่ดีขึ้นอีกต่างหาก
หาหมอก็หลายคนแล้ว

ปรึกษาหมอดูหลายๆท่าน แต่ไม่มีคำตอบไหนที่ช่วยได้เลย​ สิ่งที่ทำไปก่อนก็คือการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่มีมาแต่ละวัน

#สิ่งสำคัญ
แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้เขียนแก้ปัญหานี้ได้ในภายหลังคือ การที่คิดว่า ถึงแม้จะหมดหนทางแก้ ทุกสิ่งทุกอย่างดูมืดมน มืดแปดด้านไปหมด จะถอนคำสาบานก็ไม่ได้ จะทำตามที่สาบานไว้ก็ไม่ได้แล้ว ก็ต้องสู้ต่อไป เดินหน้าต่อไป มีความหวังต่อไป แม้ว่าจะหมดหวังแล้ว ไม่ยอมแพ้ ถ้ายอมแพ้ตอนนั้นก็คือฆ่าตัวตายไปแล้ว แต่ด้วยความไม่ยอมแพ้นั้นทำให้แก้ปัญหานี้ได้ในที่สุด

#ทางออก
ผู้เขียนนึกอะไรขึ้นมาไม่รู้
หยุดยาที่จิตแพทย์ให้กินต่อเนื่องไป
ทำให้ต้องไปหาหมอที่เข้าเวรอยู่ที่โรงพยาบาล(หมออีกคน) เพราะอาการกำเริบ

ในที่สุดสัปดาห์ที่สอง หมอบอกว่าเราป่วยเป็นโรค
“จิตอารมณ์” เป็นโรคที่ไม่ค่อยมีใครเป็นกันจึงวินิจฉัยยาก

แล้วที่นิสัยหายไปนั้นก็เป็นอาการหนึ่งของโรคนั่นเอง
แล้วโรคนี้รักษาให้หายขาดได้ ไม่ได้เกี่ยวกับคำสาบาน
เหมือนที่เราคิดมากไปเอง

วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ ใช้สติ ใช้ปัญญาให้มาก
ลองมองมุมกลับ อย่าใช้อารมณ์ ค่อยๆคิด ค่อย ๆทำ
ค่อย ๆแก้ปัญหาไปทีละเปลาะ และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น​ ก็อย่าถอดใจ สุดท้ายจึงจะประสบความสำเร็จ

ถ้าผู้เขียนฆ่าตัวตายไปตั้งแต่วันนั้น
ก็คงไม่ได้พบกับความสุข ความสบายใจ ความภาคภูมิใจที่ได้ผ่านปัญหาอีกเลย

นี่คือแรงบันดาลใจที่ผู้เขียนอยากเล่าเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่เจอกับปัญหาหนักๆ ว่าปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอ จงอย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆ

Never, never, never give up!

=======

บทความจากสมาชิกเพจบริหารความคิด
ข้อคิดคนทำงานที่ใช้นามว่า ณิรดา สมจิตร

=======

ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเพื่อน ๆในการเขียนบทความครั้งต่อ ๆ ไป

ท่านที่อยากส่งบทความในคอนเซปต์ “ชีวิตต้องสู้”
สามารถอ่านรายละเอียดที่
https://bit.ly/3eOgdEh

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความของท่าน
จะช่วยส่องแสงสว่าง สร้างแรงบันดาลใจ
ให้กับทุกคนเพื่อดำเนินชีวิตอย่างเปี่ยมพลังครับ

ธนบรรณ สัมมาชีพ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *