วัฏจักร

ธนาคารรู้วัฏจักรของธุรกิจดีกว่าเราอีกครับ
และเขาก็สนใจธุรกิจช่วงขาขึ้น​มากเป็นพิเศษ​
เพื่อปล่อยสินเชื่อ​และรับประทานดอกเบี้ยจากเรา
ส่วนช่วงขาลงนั้นเขาไม่ใส่ใจหรอก​

ถึงคุณจะปิดกิจการ​ กัดก้อนเกลือกินผสมแกลบ
เคล้าน้ำตาและหยาดเหงื่อมันก็เรื่ิองของคุณ
ธนาคารเขาจะไปลงรายละเอียดอื่นเพื่อให้คุณ
ชำระหนี้ตามกฎหมาย​ซะมากกว่า

คนรอบข้างเราก็จะมีพฤติกรรม​ละม้ายคล้ายคลึง
พอได้กลิ่นเรื่องผลประโยชน์​ก็จะตบเท้าเข้ามาจีบ​
หรือทักทายปราศรัย​เผื่อได้อะไรติดปลายนวม

อ้าว… แล้วตอนเราตกต่ำล่ะ​ จะเห็นหัวเรามั้ย
โถ​ มันตอบยากนะครับ​ พ่อคุณ​ แม่คุณ​เอ๊ย
มันจึงได้มีคำจำกัดความของคำว่า
“เพื่ิอนกิน” กับ”เพื่ิอนตาย” ออกมาให้เราจำแนกไง

เพื่อนคุณอาจเป็นเพื่อนตายหวังพึ่งพาได้
แต่อย่าได้แอบหวังเชียวนะ
ว่าธนาคารจะเป็น​เพื่อนตายของคุณ
เพราะจริง​ ๆ​ แล้วเมื่อเงินขาดมือจนชำระหนี้ไม่ได้
เจ้าธนาคารนี่แหล่ะ… จะเขมือบคอหอยคุณ
เป็นภาระกิจแรก​ แทนที่จะเป็นเพื่อนตาย​
มันกลับส่งเสริมให้คุณพบบทอวสาน(ตาย)​เร็วยิ่งขึ้น

เฮ้ย… เล่ามาตั้งนานขอสรุปละกัน​ เพราะไม่งั้น
มันจะเปลืองเวลาอันมีค่าของแต่ละท่าน
ผมแค่อยากบอกว่า

“เรามักอยากลงทุนกับคนที่มีอนาคต
แต่คนที่มีอนาคตล้วนต้องผ่านบททดสอบมั้ยล่ะ​ ?
คนที่มีอนาคตอาจจะเคยผ่านการเป็นหนี้มาก่อน
แล้วไม่ได้ยอมแพ้แถมยังพาตัวเองกลับมา
สู่เส้นทางได้​ “

และอีกมุมมอง​คือ
“ช่วงที่ตกต่ำ​ อย่าไปคิดเลยว่าจะมีใครยื่นมือมา
ให้ความช่วยเหลือ​ คุณต้องพึ่งพาตัวเองให้สุด
ถ้าไม่สุดจริง​ เตรียมรับผลกระทบ​ได้เลย”

มองใจเขา​ ใจเรา
ธนาคารเองก็ใช่ว่าจะรอด​ เมื่อโดนกระแส​ Disrupt
ก็ต้องลดต้นทุน​ เช่น​ เลิกจ้างพนักงานไปจำนวนมาก
เมื่อทุกฝ่ายต่างป้องกัน​ตัวเอง
หน้าที่ของเราคือ​ ต้องเข้าใจ
#ไม่ใช่อยู่ในสภาวะโลกสวยอีกต่อไป

ขอบคุณ​ครับ​
ธน​บรรณ​ สัมมาชีพ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *