ทุกครั้งที่ท้อแท้ ขาดความมั่นใจ เป็นกังวล
สิ่งที่ต้องทำไม่ใช่หมกมุ่น ทุ่มเวลาไปหา
แรงบันดาลใจ หลายคนเสียเงินเป็นแสนเพื่อ
เข้าคอร์สแล้วให้คนอื่นมาชี้ว่า
“เฮ้ยพวก… คุณต้องพัฒนาตัวเองได้แล้ว”
“เฮ้… จุดด้อยของคุณคือ บลา ๆ ๆ…”
ผมบอกเลยว่า… มันไม่ใช่ทั้งหมดหรอกครับ
เพราะชีวิตมันอยู่ในมือเรา หัวใจเรา มันสมอง
และสองตีนของเราล้วน ๆ ดังนั้นการโค้ชตัวเอง
จะทำให้เราเป็นคนใหม่ทันทีแถมไม่ต้องใช้เงิน
อะไร นอกจากว่าเราตัดสินใจจะให้รางวัลตัวเอง
บ้างเป็นครั้งเป็นคราวไป
วันนี้ผมจึงอยากพูดถึงเรื่อง “#ความกล้า“
รู้มั้ยว่า คำว่า”ไม่กล้า” นั้น จองจำให้เราติดอยู่กับ
คำว่า”ล้มเหลว” ได้เป็นอย่างดี อาการนี้มักจะเกิดกับ
คนที่คิดแล้วไม่ทำ ยังไม่เริ่มต้นทำอะไรก็คิดว่า
มันคงไม่สำเร็จหรอก ล้มเลิกดีกว่าหรือคิดว่า
ต้องโดนปฏิเสธแน่ ๆ
รู้มั้ยครับ ? หลายต่อหลายครั้งที่ความคิดดี ๆ
เหล่านั้นถูกคนอื่นเอาไปใช้ประโยชน์หรือสร้าง
เป็นธุรกิจขึ้นมา แล้วคนที่ไม่กล้า ก็จะคิดในใจว่า
“รู้งี้ทำไปนานแล้ว”, “บ้าไปแล้ว… นี่มันไอเดียเรา
นี่หว่า”
ทุกคนมีชีวิตที่ดีรออยู่ข้างหน้า และระหว่างทาง
ที่ทอดยาวไปสู่เส้นชัย มันต้องแลกเปลี่ยนกับ
การทำอะไรสักอย่างถือเป็นค่าเดินทางที่ต้องแลก
ตอนเป็นเด็กมีใครบังคับให้เราปั่นจักรยานมั้ย ?
อาจจะมี… แต่ในใจลึก ๆ เราอยากเอาชนะตัวเอง
และเพื่อให้สังคมยอมรับ
หลังจากนั้นก็แทบไม่มีใครบังคับให้เราต้องฝึก
ขับขี่มอเตอร์ไซค์ใช่หรือไม่… เรากระหายมันเอง
เพราะรู้ว่าชีวิตจะโคตรโสภาเพียงใด เมื่อได้ขี่มอเตอร์ไซค์ฝ่าสายลมชมทุ่งอันเขียวขจี
เมื่อเราถลกแขนเสื้อหรือขากางเกง
เพื่อดูรอยแผลเป็น เราจะยิ้มอย่างมีความสุข
ที่ได้ทำจริง เจ็บจริง และสามารถผ่านมันมาได้
นั่นเพราะเราเหยียบคำว่า”ไม่กล้า” เอาไว้
และท่องคำว่าสำเร็จ ๆ ๆ ชนิดที่ว่าหายใจเข้า
และหายใจออกก็เป็นคำว่าสำเร็จเท่านั้น
มันเริ่มจากขอให้กล้าหน่อย กล้าขึ้นมาอีกนิด
ฝึกทุกวัน… ทำในสิ่งที่เรากลัว ไม่ว่ามันคืออะไร
เขียนมันออกมาแล้ววางแผนจัดการมันทีละข้อ
จำไว้นะครับว่าหลักการที่เราจะกำจัดความกลัวนั้น
มันเป็นวิทยาศาสตร์ มันเริ่มจาก
การเรียนรู้
วางแผนจัดการ
ลงมือทำ
จากนั้นนำผลลัพธ์มาวิเคราะห์แก้ไข
แล้วก็วนไปเริ่มใหม่อยู่อย่างนี้ ทำซ้ำ ๆ ไปจนเข้าใจ
ทำได้ดังนี้เราก็จะกล้าทำในทุกเรื่อง
เพราะเข้าใจดีว่าตัวเองกำลังจะเผชิญหน้ากับอะไร
และจะรับมืออย่างไร… แค่นั้นเองครับ
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ