หยุดส่ง​”ความเครียด”

บอลลูนมันจะลอยสู่ท้องนภาได้อย่างไร
หากยังถูกพันธนาการ​ไว้ด้วยหินถ่วง
เราเองจะมีอนาคตที่สดใสได้ก็ต้องหัดปล่อยวาง
อดีตผ่านมาแล้วแก้ไขไม่ได้​

หายใจเข้า​ หายใจออกให้เป็นปัจจุบัน​
แล้วสิ่งต่าง​ ๆ​ จะเริ่มก่อตัวไปในทิศทางที่เรา
อยากให้เป็น​ เพราะเมื่อเราโฟกัสที่ปัจจุบัน
เราจะไม่ยึดอยู่กับอดีตที่ผ่านมา​และไม่วิตกกังวล
มากไปเกี่ยวกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
เมื่อคิดได้ดังนั้นเราจะมีความสุขขึ้นครับ

ผมเองเคยเป็นคนที่คิดมาก(มากจริง​ ๆ)​
ประเภทที่คนเขาเรียกว่าพวกนิยมความสมบูรณ์แบบ​
(Perfectionism)​ จนมันส่งผลต่อความเครียด
เริ่มดื่มสุราหนักขึ้น​ รับประทานอาหารในปริมาณ​
ที่มากขึ้นจนน้ำหนักตัวพุ่งสูง​ และมีความเครียด
อยู่เสมอ​ แต่ไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า​นะครับ

ทุกวันนี้ดีขึ้นเพราะเอาธรรมะมาช่วยและอ่านตำรา
แนวจิตวิทยาเพื่อให้สามารถจัดการมันได้อย่าง
เป็นวิทยาศาสตร์​หน่อย

ผมแค่อยากบอกนะครับว่า​ เมื่อเราไม่เครียด
ชีวิตเราจะเริ่มดีขึ้นเหมือนบอลลูน​ที่ไม่ได้โดนถ่วง
โดยก้อนหินอีกต่อไป​ ซึ่งการปฏิบัตินั้นโดยทั่วไป
แล้วจะแนะนำให้รู้เท่าทันสติตัวเอง
เมื่อความคิดเป็นเชิงลบเมื่อไหร่ก็ต้องรีบตัดตอน
แล้วมองในแง่บวกทันที​

เช่น​ กังวลว่าเพื่อนร่วมงานกำลังนินทาเรา
อย่างมันปาก​ ก็ให้ปรับความคิดใหม่
เป็น​ อ๋อ… มันคงไม่ใช่เรื่องจริง​ เราคงไม่สำคัญถึง
ขนาดที่คนอื่นจะเก็บไปนินทาหรอก​ แต่หากมันจะ
เป็นเช่นนั้น​ ฉันก็ไม่วอรี่​ เพราะขนาดคนที่ตาย
ไปแล้วยังไม่วายโดนนินทา​ ฉันก็แค่ใช้ชีวิตต่อไป

มันมีวิธีนึงที่ผมชอบมาก​ เพราะออกแรงนิดเดียว
แต่ผลลัพธ์​นั้นมหาศาลจริง​ คือ​ นำพาตัวเอง
ไปอยู่ในสังคมของคนที่เก่งกว่าเรา​ เพราะคนเหล่านี้
ไม่ได้แค่คิดบวกอย่างเดียวแต่มีผลงานด้วย
เมื่อเราอยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้เราจะได้ข้อคิดใหม่
อยู่เสมอแม้กระทั่งตอนกระดกกาแฟ​ ตอนปาร์ตี้

ซึ่งโดยรวมแล้วจะทำให้เราอยากเป็นคนที่ดีขึ้น
และอย่าลืมคนข้าง​ ๆ​ ด้วยนะครับ​ คนในครอบครัว
ของเรา​ หรือ​ แฟนก็ดี​ เพราะอาจเพิ่งเริ่มคบกัน
คนเหล่านี้ล้วนมีส่วนผลักดันชีวิตเราได้ทั้งนั้น

วันนี้ส่งยิ้มให้เขาเหล่านั้นเสียหน่อย
หรือจะส่งของขวัญ​ปีใหม่ที่น่ารัก​ แต่ขออย่างนึง
หยุดส่ง​ “ความเครียด” ไปให้ใครต่อใคร
แม้กระทั่งส่งให้ตัวเองก็ไม่ควรเป็นอย่างยิ่งครับ

ขอบคุณ​ครับ​
ธน​บรรณ​ สัมมาชีพ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *