ใคร ๆ เขาก็มีปีชงหรือปีที่ดวงไม่เป็นใจกันทั้งนั้น
อย่าไปคิดว่าคราวเคราะห์ มันจะจองเวรเราคนเดียว
มันแค่ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
ตามหลักธรรมที่เราศึกษากันมา
ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือก้าวผ่านมันให้ได้โดยไว
ให้กำลังใจตัวเองในการแก้ไขปัญหา มันเริ่มจาก
นาทีนี้ วันนี้ ไม่ใช่ปีหน้าฟ้่าใหม่เพราะมันไกลเกินไป
ปีที่เราซวยที่สุด มักจะมีสาเหตุสะสมมาก่อนทั้งนั้น
คนที่ล้มป่วยใหญ่มักใช้ร่างกายหนักเกินทน
สะสมต่อเนื่องจนสุขภาพทรุดลง
คนทีมีปัญหาเรื่องความรัก มักจะง้องแง้งกันมาก่อน
หรือต่างคนต่างความคิด มีเชื้อเลิกราอยู่เป็นทุนเดิม
คนที่โดนอายัดเงินเดือน โดนฟ้องร้อง
ก็มักจะมีปัญหาในการคืนเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับ
เจ้าหนี้จนต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
มันเป็นเหตุก่อนเป็นผลอยู่ทุกครั้ง
ส่วนคนที่ดูดวงดี โชคเข้าข้างซะเหลือเกิน
ก็อย่าเพิ่งไปเหมาว่าเขาพกดวงมาด้วยเสมอไป
ลองค้นดูสักนิดว่าเขาเหล่านั้นทำงานหนักขนาดไหน
คนที่หุ่นดี มีหุ่นในฝันของหลายคน นั่นเพราะเขา
บังคับตัวเองในการคุมอาหาร ออกกำลังกายมา
เป็นแรมปี
คนที่เจ้านายรัก ได้เลื่อนตำแหน่ง นั่นเพราะเขา
ทำงานหนักพร้อมผลงานที่ออกมามีคุณค่าที่เจ้านาย
ยอมรับ เขาก็โตได้ทันที ไม่ใช่เพราะดวง
คนที่ชนะประกวด แข่งขันอะไรตั้งมากมาย
ล้วนบังคับตัวเองให้มีวินัย หากไม่ได้รางวัลจะไม่
ขอยอมแพ้ แม้ต้องแลกด้วยเหงื่อและน้ำตาก็ตาม
ปีเก่ากำลังจะผ่านไปแล้ว
ขอให้คิดว่าทุกปีคือปีแห่งความสำเร็จ
แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จงอย่ามองข้าม
ผมชอบคำพูดของนักปรัชญาท่านนึงครับ
แต่จำชื่อท่านไม่ได้แล้ว ได้กล่าวว่า
“ปีทองอยู่ข้างหน้าเรา ไม่ใช่อยู่ข้างหลังเรา”
หวังว่าบทความนี้จะช่วยส่งแรงใจให้ทุกคนครับ
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ