อย่าดูแลแต่ใจมากไป จนลืมดูแลสมองนะครับ
เอะอะอะไรก็ยกใจเป็นหนึ่ง จนลืมนึกถึงความ
สมดุลที่ธรรมชาติประทานให้มาตั้งแต่เกิด
(พี่น้องที่คลานตามกันมาของ 💓 คือ 🧠)
ลองดูประโยคที่คุณคุ้นเคยเหล่านี้สิ…
“ชีวิตนี้สั้น ทำตามใจปรารถนากันบ้างเถอะ”
“รักเธอสุดหัวใจ อนาคตเป็นอย่างไรไม่รู้
แค่วันนี้ขอทำให้สุดแรง”
“งานที่ทำทุกวันนี้ทำด้วยใจ แม้ไม่มีใครเห็น
ก็พร้อมสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเอง”
คือ… มันดีทั้งนั้นเลยครับ
ผมอ่านไปยิ้มไป และปรบมือให้แบบชมเชย
แค่อยากเสริมผงชูรสสักนิด เผื่อคลิกอะไร
สักหน่อย พาให้ชีวิตเติบโตแบบชิลล์ ๆ
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจว่ามีคนบนโลกมากมาย
ที่ดิ้นรนทำทุกอย่างเพื่ออัพเลเวลตนไว้รองรับ
รายได้ในอนาคต(หรือผลประโยชน์ในรูปแบบอื่น) ซึ่งการทุ่มใจไปกับงานจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
แต่สิ่งที่ควรต้องพ่วงอย่างคู่ขนานคือ
ทำด้วยสมองอย่างขาดไม่ได้เช่นกันครับ
“ใจ” มันทำให้เราก้าวข้ามกำแพงบางอย่าง
ที่เคยสกัดเราไว้ไม่ให้โต แม้ไม่รู้ว่า วันข้างหน้า
ต้องประสบพบเจออะไร แต่มาด้วยศรัทธาล้วน
“สมอง” จะทำให้เรารู้ว่าต้องทำอะไร ? ,
กับใครบ้าง ? , ทำที่ไหน ? , เมื่อไร ? , อย่างไร ?
ด้วยงบประมาณเท่าไหร่ ?… และรู้ตัวว่าหากมัน
ไม่เวิร์คต้องถอนตัวเมื่อไหร่ ? … เหมือนกับการ
นำกลยุทธ์มาขยายความสู่ action plan
อย่างไรก็อย่างนั้น
วันนี้อย่าให้แค่หัวใจทำงาน
เราต้องเปิดให้สมองกับหัวใจทำงานควบคู่กัน
อย่ามองแค่มิติใด มิติหนึ่งแล้วจบแค่นั้น
มีสมองแต่หัวใจไม่เต้น มันก็คือตายเน้น ๆ
แต่ถ้าหัวใจยังเต้น แล้วสมองดันไม่ทำงาน
อันนี้มันโหดร้ายกว่านะครับ เพราะไม่เพียง
เราที่เดือดร้อน หากแต่มันลากคนทั้งตระกูล
มาเอี่ยวด้วย เข้าข่ายไม่ยอมตายแถมเลี้ยงไม่โต
ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากเลยนะครับ
ไม่ว่าจะเรื่องความรักหรือเรื่องงาน… บลา ๆ ๆ
ปล่อยให้ใจทำงานบุกเบิกหรือริเริ่มไปก่อน
หากต้องผิดพลาดบ้าง ก็อย่าคิดว่ามันล้มเหลว
จงส่งต่อให้สมองได้ประมวลผล และแก้ความ
ผิดพลาดนั้นให้เข้าสู่โหมดเรียนรู้เพื่อต้อนรับ
สิ่งที่ดีกว่าอยู่เสมอ
เมื่อเราใช้ใจและสมองให้ปรองดองกันได้
เมื่อนั้นเครื่องจักรผลิตความสำเร็จได้บังเกิดแล้ว
#ขอให้พลังจงสถิตย์อยู่กับทุกท่านครับ
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
ขอบคุณภาพจาก @singajelly