กาลครั้งหนึ่ง มีชาวนาผู้ยากจนได้เลี้ยง
โคหนุ่มรูปร่างสวยงามเปี่ยมด้วยพละกำลัง
ชาวนารักและถนอมเจ้าโคดุจดังลูกชายคนหนึ่ง
เจ้าโคจึงคิดทดแทนบุญคุณชาวนาผู้ยากจนนี้
ชีวิตจะได้สุขสบายกับเขาเสียที จึงเอ่ยว่า
“พ่อ… ท่านจงไปพนันกับเศรษฐีว่าโคของท่าน
สามารถลากเกวียนหนึ่งร้อยเล่มที่มัดติดกัน
ได้อย่างสบาย”
(ซึ่งปกติแล้วไม่มีโคที่ไหนทำได้)
ชาวนาได้ยินดังนั้นก็รีบวิ่งไปวางเดิมพันกับ
เศรษฐีทันที จากนั้นวันรุ่งขึ้น กิจกรรมประลอง
จึงเกิดขึ้นต่อหน้าชาวบ้านมากมาย
อากาศวันนั้นร้อนระอุเป็นพิเศษ
แถมด้วยความเครียดของชาวนาที่ต้อง
วางเดิมพันถึงหนึ่งพันเหรียญ
จึงได้เริ่มต้นกับเจ้าโครูปงามอย่างซีเรียส
ด้วยคำพูดที่แสนหยาบคาย
“ไป ๆ ไอ้โคจอมอู้ ไอ้โคโสโครก
รีบลากเกวียนทั้งหมดไปข้างหน้าสิวะ
… ประเดี๋ยวข้าจะแพ้เดิมพัน ฉิบหายกันพอดี”
โคได้ยินดังนั้นก็ฉุนขาด
ยืนอยู่เฉย ๆ เอาซะดื้อ ๆ ทำให้เงินเดิมพัน
ต้องตกเป็นของเศรษฐีอย่างง่ายดาย
เมื่อกลับมาที่บ้าน ชาวนาเสียใจมาก
ร้องไห้ฟูมฟายเพราะเงินเก็บหมดตัวเกลี้ยง
ฝ่ายโคหนุ่มอดสงสารไม่ได้จึงเข้ามาพูดคุย
และให้โอกาสอีกครั้ง
“พ่อด่าว่าฉันอู้งาน ทั้ง ๆ ที่ฉันช่วยทำนาทุกวัน
พ่อด่าว่าฉันสกปรกโสโครก ทั้ง ๆ ที่ฉันก็
รักสะอาดไม่เคยถ่ายเรี่ยราดบริเวณบ้าน
อันนี้ต้องเคลียร์ความรู้สึกกันก่อน
เอาล่ะ… ทีนี้พ่อไปเดิมพันใหม่
ฉันจะลากเกวียนสองร้อยเล่มให้ดู
ส่วนพ่อก็หาเงินมาวางเดิมพันเท่าตัว
เอาคืนทั้งต้นทั้งดอก… รอบนี้รวยแน่”
“อ้อ… รอบนี้พ่ออย่าลืมพูดดี ๆ กับฉันด้วยล่ะ
แล้วฉันจะไม่ทำให้พ่อผิดหวัง”
ชาวนาผู้ยากจนรับฟังและปฏิบัติตามเจ้าโค
วันนั้นจึงพูดจาอย่างเสนาะหูว่า
“เจ้าโคหนุ่มรูปงามของพ่อ
เจ้าจงลากเกวียนสองร้อยเล่มนี้ไปข้างหน้า
เพื่อแสดงกำลังวังชาของเจ้าให้เป็นบุญตา
ให้กับท่านเศรษฐีและชาวบ้านในวันนี้ด้วยเถิด”
พูดยังไม่ทันขาดคำเจ้าโคก็ลากเกวียน
ไปหลายสิบเมตร จนเศรษฐีต้องสั่งให้หยุด
และยอมรับผลแพ้เดิมพัน
ชาวนากลายเป็นผู้ร่ำรวยและเจ้าโคหนุ่ม
ก็ได้ตอบแทนบุญคุณชาวนาไปอีกนาน
เรื่องเล่านี้สอนอะไรเราบ้าง…?
เกิดเป็นเจ้านายคน ต้องรู้จักใช้ “มธุรสวาจา”
เพราะมันช่วยให้เราได้มิตรไมตรีจากคู่สนทนา
ได้ใจและความร่วมมือจากลูกน้อง
ด้วยหลักง่าย ๆ ว่า อยากให้ใครยิ้มให้เรา
เราก็ต้องส่งยิ้มให้เขาก่อน หรือในมุมการ
ทำธุรกิจก็ไม่ต่างกัน บริษัทที่ได้รับการอบรม
ให้พนักงานส่งมอบบริการที่ดีให้ลูกค้าอยู่เสมอ
ย่อมมีโอกาสขยายฐานลูกค้าง่ายขึ้นโดยใช้
งบประมาณเท่าเดิม เนื่องจากลูกค้าช่วยบอกต่อ
เรื่องนี้จะว่าปลาหมอตายเพราะปากก็ได้
แต่เนื้อหาทั้งหมดนี้ผมดัดแปลงมาจาก
นิทานชาดกเรื่องโคนันทิวิสาลนั่นเอง
โดยตอนท้าย พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า
“ภิกษุทั้งหลาย ชื่อว่าคำหยาบ
ไม่เป็นที่ชอบใจของใคร ๆ
แม้กระทั่งสัตว์เดียรัจฉาน”
ส่งท้ายด้วยบทกลอนจากนิราศภูเขาทอง
เผื่อท่านได้หยิบยกไปเล่าต่อจะได้มีทางเลือก
สุดแต่จะคัดสรรตามใจชอบครับ
“ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์
มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร
จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา”
-สุนทรภู่-
หวังว่าบทความนี้จะส่งข้อคิดที่ดี
ให้ทุกท่านเช่นเคยครับ
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
======
Photo by Tom Verdoot: