“เจ็บแต่ทำไมต้องทน”
“เหนื่อยทำไมไม่หยุด”
“ไม่ชอบทำไมต้องฝืน”
“กลืนไม่เข้าคายไม่ออก บอกใครไม่ได้”
เพราะวันนี้ยังไม่มีหนทางสว่างให้ก้าวเดินไป
เชื่อว่าเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นกับทุกคน
อยู่ที่ว่ามันจะคงอยู่ตลอดทั้งชีวิตหรือไม่
ด้วยความคิดที่ว่า “ยอมเจ็บปวดระยะสั้น
เพื่อพิชิตความฝันในระยะยาว”
ของแบบนี้มันต้องอาศัยเวลา ผมขอส่งกำลังใจช่วยอีกหนึ่งแรงใจครับ
แต่ถ้ามันเป็นอีกมุมมองล่ะ…!?
การเป็นคนที่กลัวการจบหรือเดินจากไป
การเป็นคนที่กลัวการเปลี่ยนแปลง
การเป็นคนที่กลัวการเริ่มต้นใหม่
จึงยอมติดอยู่กับวงจรเดิม ๆ
ตอนเช้าได้รับพิษ ตอนเย็นก็รอรับยาแก้พิษ
วันแล้ววันเล่าจนติดเป็นนิสัยประจำตัว
หารู้ไม่ว่า… มันคือสุดยอดโซ่พันธนาการชีวิตให้ตกต่ำที่ต้องทำลายทิ้งทันที
แต่นั่นต้องใช้สมองและหัวใจช่วยกันคลำทาง
ด้วยนะ เอางี้ครับ ลองถามตัวเองว่า…
ถ้าเปลี่ยนแปลงแล้วชีวิตดีขึ้นล่ะ ?
ถ้าแยกทางกับใครสักคนหรือหลายคน
แล้วไปเจอสังคมใหม่ที่อุปถัมภ์กันดีกว่าล่ะ ?
ถ้าเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ ที่ฝันไว้มันจะทำให้
ชีวิตดีขึ้น ทำไมเราไม่เริ่มลงมือทำล่ะ ?
ตอนนี้มันถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงแล้วหรือไม่
แน่นอนว่าบางคนทำได้เลย และบางคน
ยังไม่พร้อม จึงได้มาสะกิดใจกันในวันนี้
ไม่ให้จิตใจล่องลอยไร้จุดหมาย หากแต่เริ่ม
ก้าวเล็ก ๆ เริ่มตั้งเป้าหมายในระยะสั้น กลาง
และยาวไว้ จากนั้นค่อยเริ่มลงมือทำเพราะ
เราไม่สามารถประสบความสำเร็จได้โดย
ใช้ชีวิตให้เป็นไปตามยถากรรมหรอกนะ
ปลาเป็นมันว่ายทวนน้ำ คนอย่างเราก็ต้องสู้
สู้แบบมีหลักการ สู้แบบมีเป้าหมาย
สู้แบบมีกลยุทธ์ แล้วใครก็ฉุดเราไม่อยู่ครับ
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ