เมื่อวานผมไปทานข้าวร้านประจำ
แต่คงเนื่องจากฝนตกหนัก ร้านเต็มไปด้วย
ลูกค้าทั้งหน้าใหม่หน้าเก่ารอคิวทานร้านนี้
คือประเมินแบบคร่าว ๆ น่าจะรอร่วมชั่วโมง
กว่าจะได้กิน ผมตัดสินใจเดินไปดูร้านอื่นครับ
ร้านใหม่ที่ผมไปเจอห่างกันประมาณ 200 ก้าว
ลูกค้าไม่เยอะ ดูรู้เลยว่ารอไม่ถึง 10 นาที
อาหารต้องตกถึงกระเพาะแน่นอน และก็เป็นไป
ตามนั้นครับ ได้อาหารเร็ว อาหารปริมาณพอดี
รสชาติอร่อยกว่าร้านประจำ… ย้ำว่าอร่อยถูกปาก
มากกว่าร้านเดิม ไม่ใช่เพราะอารมณ์หิวจัด
แต่มันดูดีตั้งแต่วัตถุดิบ อัธยาศัยแม่ค้าตามด้วย
รสมือที่กระซวกใจสุด ๆ… นี่คือเหตุการณ์ที่หนึ่ง
เมื่อต้นปีผมเลือกฟังวิทยุในรถคลื่นความถี่ใหม่
ซึ่งเปิดเพลงในแนวที่ไม่ค่อยชอบเนื่องจาก
เป็นเพลงใหม่ไม่ค่อยติดหู แรก ๆ ไม่ค่อย
อยากฟังแต่ลองอดทนฟังสักเดือนคงไม่เป็นไร
(ผมกำลังทดลองเปิดรับสิ่งใหม่ ซึ่งเป็นอีกมุม
ที่มักปฏิเสธโดยอัตโนมัติ)
ปรากฏว่าผ่านไปจะ 2 เดือน ผมก็เริ่มคุ้นเคย
กับเพลงแนวใหม่ เนื้อหาใหม่ ตลาดใหม่
ชนิดที่ว่าเริ่มร้องตามได้และไม่คิดเปลี่ยน
คลื่นความถี่เลย… นี่คือเหตุการณ์ที่สอง
เมื่อไม่กี่สัปดาห์มานี้ ผมได้พูดคุยกับน้องคนหนึ่ง ซึ่งเขาเป็นนักขายฝีมือระดับแนวหน้า
ผมบอกว่ากำลังมองหาผู้ช่วยวิทยากร
น้องอยากลองหาประสบการณ์ด้านนี้มั้ย
เขาเก็บไปคิดและตอบตกลงในเวลาต่อมา
เพราะมีใจชอบงานสอนแถมยังชอบพบปะผู้คนเป็นทุนเดิม… นี่คือเหตุการณ์ที่สาม
ผมสรุปให้ตัวเองฟังดังนี้ครับ
1.เมื่อเรามองหาโอกาสใหม่ โอกาสใหม่ก็จะ
หลั่งไหลเข้ามา เพียงแค่เปิดตาเปิดใจ
2. สิ่งที่เราไม่ชอบ สิ่งที่เราไม่รู้ อาจจะปิดกั้น
ศักยภาพของเรา ลองเปิดใจสักนิดเพื่อแง้มประตูบานใหม่ซึ่งใจเราอาจจะชอบเข้าเต็มประตูก็เป็นได้
3. เมื่อเราเริ่มเดินทางเราจะประสบพบเจอผู้คนมากมาย เพียงบอกปลายทางให้ชัดเดี๋ยวเพื่อนร่วมทางจะมาเอง
ทั้งสามข้อรวมกันนี้ทำชีวิตเราได้มีสีสัน
เพราะสมองไม่เคยชินกับอะไรเดิม ๆ
เปลี่ยนจากไม่รู้ ให้กลายเป็นรู้
เปลี่ยนจากไม่ชอบ ให้กลายเป็นชอบ
(ในที่นี้หมายถึงศึกษาให้ถ่องแท้ก่อนตัดสินใจ
ว่าจะชอบหรือไม่ชอบอะไร)
เปลี่ยนจากไม่เริ่มต้น ให้กลายเป็นลองทำดู
ชีวิตก็แค่นี้ เล็กน้อย เรียบง่าย
แต่ต้องเข้าใจมันและมีเป้าหมายในชีวิตด้วยนะ
ความสนุก ความสุขใจจึงจะบังเกิด
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
www.thanaban.com