“ถ้าเราไม่เก่ง เราพัฒนาได้”
ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่เก่งอะไรสักเรื่อง
แค่ลองหยิบมาสักอย่างแล้วลงมือทำจริงจัง
ประเภทกัดไม่ปล่อยดูเท่านั้นเอง
ผมเล่าประสบการณ์ของผมเกี่ยวกับการ
เขียนหนังสือเล่มก็แล้วกัน เนื่องจากหนังสือ
เล่มใหม่ของผมจะวางแผงตามร้านหนังสือ
ในเครืออมรินทร์ช่วงปลายสัปดาห์หน้าจากการยืนยันของสำนักพิมพ์
เริ่มแรกหัดเขียนแคปชั่น หรืออะไรที่มันเตะตา
คนให้ได้ก่อน (นั่นคือเหตุผลที่ผมฝึกโพส twitter
เน้นสั้น ได้ใจความ จุดประกายความคิด)
เพื่อดึงดูดความสนใจให้เขา
อ่านบรรทัดถัดไปเรื่อย ๆ เราจะเอาสถิติ ข้อมูล
ตัวเลขมาใส่บ้างเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือก็ได้
ขึ้นอยู่กับว่าเราเขียนเรื่องอะไร พอเขียนได้
หลายบรรทัดมากขึ้น มันก็เริ่มเขียนเป็นบทได้
ทีนี้จะเอากี่ร้อยหน้าก็ว่ามาสิครับ กลัวที่ไหน
ซึ่งวิธีเขียนและเทคนิคการเขียนนั้นมีคนสอนเยอะแล้วผมคงไม่ขอกล่าวอะไรมาก
เพียงชวนคุยว่า “ถ้าเราไม่เก่ง เราพัฒนาได้”
โดยการทำสิ่งนั้นทุกวัน แม้วันนั้นจะเป็นวันที่
เราขี้เกียจขนาดไหนก็ตาม เมื่อหายใจเข้า
หายใจออกเรายังคงนึกถึงมัน ภาพชัยชนะ
จะเกิดขึ้นในหัว จนกลบความฟุ้งซ่านมิด
ชนิดที่ว่าต่อมเกียจคร้านไม่ทำงานกันเลยทีเดียว
ถ้าเราขาดพรสวรรค์ เราต้องมี “วินัย”
แล้วทุกเรื่องที่เราอยากเก่ง มันจะกลายเป็น
เป้าหมายที่ไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป
เริ่มจากอะไรง่าย ๆ ทำให้เป็นรูปธรรมที่สุด
แล้วเมื่อเวลาผ่านไป เราอาจจะประสบความ
สำเร็จแบบไม่ทันตั้งตัว… ก็คนมันพร้อมอ่ะ
ซ้อมทุกวัน ฝึกทุกวัน ไม่สำเร็จก็ให้มันรู้ไปดิ
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
www.thanaban.com