ต่างกันที่การฝึก

ทุกอย่าง​บน​โลก​ ตอนเริ่มทำมันยากหมดแหละ
กว่าจะยืนได้​ ​ กว่าจะพูดได้​ กว่าจะกินเผ็ดได้
มันไม่เคยเป็นได้โดยอัตโนมัติ​เลย​ จริงมั้ยครับ​ ?

แต่พอเป็นแล้วมันก็เป็นเลย
มีใครลืมวิธีวิ่งบ้าง​ ?
มีมั้ยที่ลืมวิธีปั่นจักรยาน​ ?
หรือเมื่อวานว่ายน้ำแก้ร้อนทั้งวัน​
แต่วันนี้ดันลืมวิธีว่ายน้ำซะงั้น

ในทางกลับกัน… ทักษะ​เหล่านี้มันติดตัว
แถมมันง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากซะแล้ว
เพราะจะให้ทำซ้ำกี่ครั้ง​ ก็สบายบรื๋อ

นั่นเพราะเราทำมันทุกวันไงครับ
คนที่พอวิ่งได้​ เทียบกับนักวิ่งเหรียญทอง​
จะมีชั่วโมง​ฝึกต่างกัน​
คนที่พอร้องเพลงได้​ เทียบกับนักร้องมืออาชีพ
จะมีชั่วโมง​ฝึกต่างกัน
คนที่พอพูดได้​ เทียบกับนักพูด​ วิทยากร
จะมีชั่วโมง​ฝึกต่างกัน

ประเด็นคืออยากเก่งอะไรก็ต้องฝึกหนักครับ
เพราะผลสำเร็จ​ของมันจะทำให้คุณ​ภาพชีวิต
ของเราดีขึ้น​ เช่น​ เราสามารถหารายได้​มากขึ้น
จากความเก่ง, ได้รับความยอมรับจากคนภายนอก, เพิ่มโอกาสให้ได้เจอสิ่งใหม่​ ๆ​ หรือ
อย่างน้อยที่สุด​ เราจะสนุกไปกับการที่ได้เห็น
การเติบโตของตัวเอง(ความสุข)​

การเรียนรู้​ การฝึกฝน​ มันทำให้เหนื่อยทั้งใจ
และทั้งกาย นั่นคือหนึ่งสาเหตุ​ใหญ่ที่หลายคน
ผัดวันประกันพรุ่ง​ แต่รู้อะไรมั้ยครับ…
การปล่อยให้กาลเวลา​ล่วงเลย​ผ่านไป
โดยไม่ได้เรียนรู้​อะไร​เลย​ กลับทำให้เจ็บยิ่งกว่า

จะเลือกแบบไหนก็มีเจ็บ​ มียากกันทั้งนั้น
สู้เลือกแบบเจ็บแล้วโตดีกว่า​ มันคือการพัฒนา​
นำพาตัวเองได้​ ก็นำพาคนอื่นเป็น อยากเห็นตัวเองในเวอร์ชั่น​ไหน…ไส้แห้งหรือไส้เปียก​ ?
เลือกได้เลยครับ

ขอบคุณ​ครับ
ธน​บรรณ​ สัมมาชีพ
www.thanaban.com
======
ภาพ​จาก​ Thana​ban โดย​ Midjourney

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *