ศิลปินจำนวนไม่น้อยที่แต่งเพลงได้ขณะเดินทาง หรือรอรถเมล์ คุณคงรู้ใช่มั้ย?…
ขึ้นชื่อว่านักแต่งเพลงนั้น ตอนอกหักเขาก็หยิบ
ปากกาขึ้นมาเขียนเพลงได้ ตอนผิดหวังเสียใจ
เขาก็ยังจดความรู้สึกที่เป็นวัตถุดิบได้ แม้ว่า
กระดาษที่ใช้เขียนจะชุ่มด้วยน้ำตา
นั่นช่วยตอบคำถามที่ว่า ทำไมจึงเขียนเพลง
หรือนิยายได้ดีเหมือนไปนั่งในเหตุการณ์
นักเขียนออนไลน์ อินฟลูเอนเซอร์หลายคน
ใช้เวลาตอนดื่มกาแฟหรือรออาหารเพื่อเขียน
บทความอัพลงบล็อก, ไอจี, เพจ, เว็บไซต์.. ฯ
นักเรียน นักศึกษาท่องสูตรในใจขณะยืนรอลิฟท์
แม้กระทั่งตอนนั่งแท็กซี่ไปห้างสรรพสินค้า
หรือช่วงเวลาต่อแถวซื้อข้าวที่โรงอาหาร
คนจำนวนไม่น้อยที่ใช้เสี้ยวเวลา สะสมผลงาน
เหมือนหยดน้ำที่หยดลงแก้วชา ไม่นานมันก็เต็ม
ผมไม่ได้บอกว่าคนเรามียี่สิบสี่ชั่วโมงเท่ากัน
เพราะทุกคนรู้ดีอยู่แล้ว
แต่จะบอกว่าเมื่อมีทรัพยากรเวลาเท่ากัน
ทำไมบางคนถึงมีอนาคต บางคนยังติดหล่มที่เดิม
วันนี้กลับมาบริหารเวลาเป็นนาที หรือชั่วโมงให้ดี
จากนั้นเราจะได้วันที่มีค่าอีกวันหนึ่ง สะสมไปเรื่อย
ดังที่แจ็ค หม่า กล่าวไว้ตอนที่เปิดอาลีบาบา
ใหม่ ๆ ต่อหน้าพนักงานสองพันคน ว่า
“บริษัทที่ไม่ทำวันนี้ให้ดี ก็คือบริษัทที่ไม่มีวันหน้า”
ชีวิตคนเราก็คงไม่ต่างกัน และ CEO ของชีวิต
ก็คือตัวเราเองนั่นแล
อ้าว… กาแฟมาแล้วครับ
ขอตัว
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ