นั่นก็โอกาส นี่ก็โอกาส นู่นก็โอกาส
พออ่านมาก รู้มาก คิดมาก ก็เป็นไปได้สูง
ว่าจะมองเห็นโอกาสมากมายเต็มไปหมด
ซึ่งดูเผิน ๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีนะครับ
แต่ต้องสะกิดกันนิดว่าจงอย่าได้หลุดจาก
วิสัยทัศน์หรือเป้าหมายชีวิตที่เคยตั้งไว้
อย่างเด็ดขาด มิฉะนั้นเราจะไปไม่ถึงไหนเลย
ลองนึกภาพการเดินทางจากกรุงเทพฯ
ไปภูเก็ตในเวลาจำกัดคือภายใน 48 ชม.
โดยรถส่วนตัว จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราออกนอก
เส้นทาง แวะกินน้ำชากาแฟทุกอำเภอที่ผ่าน
แบบนี้มีแววที่จะไปถึงไม่ทันกาล
หรือที่เราเรียกว่า “จับปลาสองมือ” ก็สะท้อนใจ
ไม่แพ้กัน เพราะมันกำลังบอกว่าเรามุ่งเอาหลายสิ่งหลายอย่างมาครอบครองแต่สุดท้ายกลับ
ไม่ได้อะไรสักอย่าง
ทั้งหมดมันเกิดจากพลังแห่งการโฟกัสได้หายไป
นั่นเองครับ ลองคิดดูใหม่ให้ดีอีกครั้งว่าเรามี
ทรัพยากรอะไรบ้าง ? มันมีจำกัดใช่หรือไม่ ?
แล้วเราจะทำอะไรก่อนหลังดีล่ะ ?
สิ่งที่เราโฟกัสกับมันควรเป็นสิ่งที่ส่งผลดี
อันยิ่งใหญ่ ช่วยยกระดับชีวิตให้ดีขึ้นเท่าตัว
คุ้มค่ากับทรัพยากรที่ทุ่มลงไป
ส่วนเจ้าโอกาสที่เรามองเห็นมากมายนั้น
มันถึงเวลาที่ต้องลงมือตอนนี้เลยหรือไม่ ?
ทำไปแล้วจะหลุดโฟกัสจากวิสัยทัศน์หรือไม่ ?
เราไหวจริงหรือ… ?
หรือมันเป็นเพียงสิ่งล่อใจ
ดั่งพญามารที่คอยยั่วยุให้เราหลุดออกจาก
เส้นทาง และเปลี่ยนโอกาสในความคิดเรา
ให้เป็นวิกฤติ จนชีวิตเราต้องติดหล่มจมโคลน
ต้องหมั่นวิเคราะห์กันให้ดีนะครับ
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
www.thanaban.com
======
ภาพจาก Thanaban โดย Midjourney.