เมื่อเสียรู้เรื่องใด รู้ไว้…มันไม่ได้ทำให้โง่ลง
แต่มันกลับทำให้เราโตขึ้น จากอาการ
“ตาสว่าง” ซึ่งของแบบนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน
คนเราเติบโตมาจากความไม่รู้ทั้งสิ้น
เราเองมียุคมืดบอด ยุคที่ความรู้น้อย
จึงกลัวไปซะทุกเรื่อง หรือบางครั้งก็ลำพอง
ตัวเองเกินงามชนิดที่ใครข้ามก็ไม่ฟัง
แต่เอาน่า ของแบบนี้เมื่อเราสำนึกตัวได้
และไม่ยอมแพ้หรืออ่อนข้อให้กับอุปสรรคต่าง ๆ เราจะแกร่งขึ้นโดยอัตโนมัติ
บางครั้งกว่าที่จะตาสว่างได้ มันก็ดันเกิดขึ้น
กับคนที่เราชอบ ครั้นเมื่อเราได้มีโอกาสเห็นธรรมชาติที่แท้จริงหรือตัวตนของใครเขา
คนนั้นเข้า ที่มันชอกช้ำใจคืออะไรรู้มั้ยครับ ?
เราหลงผิดไปตั้งนาน เห็นกงจักรเป็นดอกบัว
มาตลอด เข้าใจว่าเขาเป็นคนดีชนิดที่ว่าใคร
จะเตือนก็ไม่ฟังเสียง
เมื่อได้ร่วมทางจึงรู้จักกันดีขึ้น ประกอบกับ
การมีประสบการณ์ชีวิตมาก จนสามารถ
สืบสาวราวเรื่องได้เอง ถึงขั้นเกิดปัญญาและ
ตาสว่างขึ้นในทันใด
ที่เล่ามาไม่ได้มีเจตนาซ้ำเติมใครนะครับ
เพราะผมเองก็ยังมีอาการมืดบอดอยู่หลายเรื่อง
ยังต้องฝึกฟังหูไว้หู ประคองตรรกะเหตุผลให้
คู่กับอารมณ์ความรู้สึก หมั่นศึกษาหาความรู้
เพิ่มเติมเพื่อป้องกันปัญหาที่ไม่ควรเกิดอันจะ
ฉุดรั้งเราจากเป้าหมายที่ตั้งไว้
คำกล่าว “อะไรที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมดีเสมอ”นั้น
สำหรับผู้ที่มีทัศนคติเชิงบวกครับ เพราะคน
เหล่านี้จะมองเห็นโอกาสในวิกฤติ หรือเห็น
ข้อดีจากปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วเอามาเป็นบทเรียน
จึงฝากกำลังใจให้หลายท่านที่กำลังไม่แน่ใจ
ว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าเป็นหมอกจาง ๆ หรือควัน
ตั้งสติให้ดี ผิดได้พลาดได้ อย่าเสียกำลังใจไป
ตราบใดที่ยังไม่ยอมแพ้ เราจะถึงเส้นชัยจนได้
บางเรื่องเราตาสว่างแล้ว แต่บางเรื่องเราก็ยัง
ดูไม่ออก มืดบ้าง สว่างบ้าง ช่างเป็นสีสันของชีวิต … จริงมั้ยครับ ?
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
www.thanaban.com
======
ภาพประกอบสร้างเองจาก Thanaban
โดย Midjourney.
อยากสร้างภาพประกอบสวย ๆ แบบนี้บ้าง
ผมขอแนะนำงานเขียนของผม
E:Book “Midjourney for Writer. “