“รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี”
ไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวหรือสำหรับคนเก่งเท่านั้น
ความจริงแล้ว มันคือทักษะพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนควรจะมีซะด้วยซ้ำไป
ลมหนาวกำลังจะเข้ามาเยือนในไตรมาสสุดท้าย
ปีหน้าใกล้เข้ามาเยือนอีกแล้วและมีสัญญานเตือนอะไรบางอย่างผ่านทางข่าวสารหน้าช่องทีวี หรือหน้ามือถือว่า ให้ระวังพิษเศรษฐกิจให้ดี ซึ่งดูแล้วก็ไม่ใช่อะไรที่น่าตื่นเต้น
เพราะก็รับมือกับโรคทรัพย์จางมานานแล้ว
สินค้ามันขายได้เพราะมันแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้
ถึงมันจะแพง คนก็ยังเก็บเงินซื้อหรือซอยงวด
เพื่อผ่อนชำระเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง
ตัวเราก็เช่นกันครับ
อยากได้เงินเดือนขึ้น
อยากได้การยอมรับนับถือ
อยากได้รายได้หลายทาง
หรือสรุปว่าต้องการให้ชีวิตมั่งมีศรีสุขนั่นแหล่ะ
ให้ลองถามตัวเองสักหน่อยว่า
ศักยภาพของเราในตอนนี้มันเป็นที่ต้องการของ
ตลาดหรือของบริษัทหรือไม่ ?
หากคิดว่า… ไม่… จะทำอย่างไรต่อ ?
“ปีเตอร์” เป็นนักเตะดาวรุ่ง อยากได้ค่าแรงสูงขึ้น
สองเท่า จึงไปต่อรองกับผจก.ทีม คำตอบคือ
“NO” แบบไม่ต้องเสียเวลาคิด
ปีเตอร์กลับมาใช้เวลาฝึกซ้อมและเร่งทำผลงาน
ระหว่างนี้ ทั้งฤดูกาล เขายิงประตูได้แทบทุกนัด
ไม่เคยพลาดในการยิงลูกจุดโทษ แถมผ่านบอล
สวย ๆ ได้หลายลูก
หลังจากนั้น เมื่อสัญญานักเตะใกล้จบลง
หากปีเตอร์เข้าไปขอพูดคุยกับผจก.ทีมใหม่
คุณคิดว่าโอกาสที่เขาจะได้ปรับเพิ่มค่าตัวจะมี
สูงขึ้นมั้ยครับ ?
มันคือข้อดีของการไม่ยอมแพ้และพัฒนาตัวเอง
อยู่เสมอ เมื่อแข่งกับตัวเองได้ คู่แข่งที่ไหนก็ต้อง
หลีกทาง คำว่า”โอกาส” จึงหลั่งไหลเข้ามาหา
อย่างไม่ขาดสาย
ทุกท่านครับ ผมอยากฝากข้อคิด ดังนี้
“ถ้าเราจะก้าวเข้าสู่ปีหน้าด้วย Mindset เดิม
Knowledge เท่าเดิม, Skills เท่าเดิม
ก็เตรียมรับมือกับการที่ชีวิตยังติดอยู่กับ
วงจรอะไรเดิม ๆ ได้เลยครับ…แนวโน้มสูงมาก”
เรามาลุยไปด้วยกัน พลิกชีวิตนั้นไม่ยากเกินไป
การอยู่แบบไม่ดิ้นรนนั้น ผลลัพธ์มันน่ากังวล
กว่าเยอะ
เราเองก็รู้นิว่า…
บนยอดเขามันอากาศดีขนาดไหน
แต่คนส่วนใหญ่ไม่เคยได้สูดสัมผัส
เพราะพวกเขา” ขี้เกียจ” ปีน
แต่สำหรับคนที่มีทัศนคติเชิงบวกและพร้อมลุยนั้น การพิชิตยอดเขาเป็นเรื่องแสนสุดท้าทาย
เพราะมันได้ฝึกสุดยอดทักษะการเอาตัวรอด
ชนิดที่ว่าพลิกตำรากันวุ่นเลยทีเดียว
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
www.thanaban.com