ความสำเร็จอยู่ที่นั่น แต่ความพยายามของฉัน
อยู่ที่ไหน ? คือสิ่งที่ผมกำลังอยากจะบอกว่า
หลังจากที่มีเป้าหมายแล้วเราได้พยายามทำ
ทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายจริงหรือไม่ ?
Money Coach ได้กล่าวครับว่า…จากสถิติแล้ว
ไม่เกินวันที่ 15 มกราคม คนเราจะลืมเป้าหมาย
ที่ตั้งไว้เมื่อตอนปีใหม่ บ่งบอกว่าพอเอาเข้าจริง
มันก็เป็นเป้าหมายที่เลื่อนได้ (ผัดวันประกันพรุ่ง)
ดังคำกล่าวที่เป็นตลกร้ายนิด ๆ ว่า…
วันที่เหมาะที่สุดสำหรับการออกกำลังกาย
… ก็คือวันพรุ่งนี้
หรือวันที่เหมาะที่สุดสำหรับการออมเงิน
… ก็คือวันพรุ่งนี้
… และมันก็ไม่เคยมีอะไรดีขึ้นเลย
พูดถึงความสำเร็จหรือเป้าหมายแต่ละคนก็สามารถแยกย่อยออกเป็นได้หลายหัวข้อและหากขาดข้อใดข้อหนึ่งไป ย่อมทำให้ชีวิตไม่สมบูรณ์ถึงขีดสุด
ดังทฤษฎีสมดุลชีวิต 6 ด้าน ซึ่งได้แก่
1. สุขภาพและร่างกาย
2. การงานและการเงิน
3. การเรียนรู้และพัฒนาตนเอง
4. ความสัมพันธ์และครอบครัว
5. จิตวิญญาณ
6. สังคม
ซึ่งเราต่างรู้ดีว่า การได้มาและรักษาสมดุลทั้ง 6
นั้นช่างเป็นไปได้ยากเย็นเหลือเกิน
แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามหากเราตั้งเป้าไว้แล้ว
และบวกความพยายาม มันก็จะค่อยๆได้มาซึ่ง
ความสำเร็จแต่ละข้อ จนสามารถทำให้ชีวิต
มีสมดุลได้
เช่น เมื่อเราสุขภาพดีเราก็จะสามารถทำงานหาเงินได้ เมื่อเราทำงานหาเงินได้เราก็มีเงิน เลี้ยงตัวเอง
และครอบครัว เพราะเงินช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างความสัมพันธ์อันดี เช่น พาครอบครัวไปกินข้าวหรือท่องเที่ยว
หากเงินเหลือเราก็ใช้ในการพัฒนาตัวเอง
เพื่อให้มีความสามารถในการหาเงินไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อมีเงินเยอะก็บำรุงจิตวิญญาณหน่อย
มีการทำบุญและทำเพื่อสังคมบ้างเพื่อเติมเต็มหัวใจ
ซึ่งจะเห็นว่ามันเกี่ยวเนื่องกันอย่างขาดไม่ได้
เคยเห็นเจ้าแมลงที่มี 8 ขาใช่ไหมครับ ?
มันเดินไปไหนก็ได้โดยไม่เคยสะดุดขาตัวเองเลย
นั่นเพราะมันรักษาสมดุลได้ หรือหากมีเหตุให้ต้อง
เสียขาไป 1-2 ข้างมันก็ยังจะสามารถเดินได้
ดังนั้นแรก ๆ เราอาจจะ ไม่สามารถรักษาหรือมีสมดุลได้ ครบทุกข้อ ต้องใช้ความรู้ ทักษะ ประสบการณ์
และความพยายามในการได้มาซึ่งความสำเร็จแต่ละข้อ เมื่อสะสมครบเมื่อไหร่ มันก็จะเรียกได้ว่าเป็นความสมดุลดั่งที่คนทั่วไปปรารถนาเสียที
ขอเพียงอย่าลดละความพยายาม
หากยังทำไม่ได้ ก็อ่านหนังสือเยอะ ๆ
ฟัง podcast,youtube หรือคอร์สสอน
รวมถึงพาตัวเองไปอยู่ในแวดวงสังคมที่เกื้อหนุน
สิ่งเหล่านี้แหละ ที่จะพาเราไปสู่ความเร็จได้
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ