เมื่อเราตั้งใจทำอะไรสักอย่างไม่ว่าจะตั้งใจ
หรือไม่ มักจะมีคนที่สังเกตเห็นอย่างน้อย
หนึ่งคนอยู่แล้วไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่ดี
หรือเรื่องที่ไม่ดีก็ตามนั่นคือ”ตัวเราเอง”
ที่ได้ลงมือทำลงไป
ส่วนคนต่อมาที่จะเห็นก็คนรอบข้างที่ทุกวันนี้
มีหน้าที่เสริมคือเป็นผู้สื่อข่าว เพราะมีอุปกรณ์
ถ่ายทอดสดพร้อมอยู่ตลอดเวลาที่เราเรียกมันว่า
มือถือหรือสมาร์ทโฟน
คนรอบข้างนั้นมีทั้งหวังดี และหวังไม่ดี
แถมยังพร้อมตัดสินเราจากภายนอกหรือจากสิ่ง
ที่เขาเห็นในช่วงเวลาที่จำกัด หากเรามีพฤติกรรมที่สังคมไม่ยอมรับ เช่น ทิ้งขยะเกลื่อน ขากถุยลงพื้น พูดเสียงดังในห้องสมุด
ก็เป็นไปได้ว่าจะถูกสังคมตีตราว่าทำตัวไม่
เหมาะสม
แต่หากมันเป็นเรื่องที่ไม่ได้ไปสร้างความ
เดือดร้อนให้ใคร แถมยังช่วยให้สังคมน่าอยู่มากขึ้นแม้จะไม่มีใครเห็นก็ต้องลงมือทำต่อไปนะครับ เราเห็นขยะเกลื่อนเต็มพื้น เราก็ก้มลงเก็บ
เราเห็นใครขากถุยลงพื้น ก็อย่าไปเลียนแบบเขา
ในสังคมที่ทำงานก็เช่นกัน
พื้นที่บริเวณที่เป็นส่วนรวม หรือจุดเกรงใจทั้งหลาย
มักมีความสกปรก หรือจุดหมักหมมอะไรซ่อนอยู่
เราก็ควรเป็นหูเป็นตา หากไม่เหลือบ่ากว่าแรง
ก็ทำแบบจิตอาสาไป แต่ถ้าเกินกำลังจึงแจ้งไปยัง
หน่วยงานที่รับผิดชอบเช่น ฝ่ายอาคารสถานที่
หรือแม่บ้าน เป็นต้น
เชื่อเถอะครับ… หากเราลงมือทำอะไรสักอย่าง
อย่างต่อเนื่อง(ย้ำว่าอย่างต่อเนื่อง) มันจะมีคนที่
สังเกตเห็นอย่างแน่นอน เพียงแต่แรก ๆ เขาจะสงสัยว่าเราคือของจริงหรือไม่
และเขาจะหายสงสัยก็ต่อเมื่อเราทำมันอย่าง
ต่อเนื่อง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะใหญ่โตหรือไม่
หรือเป็นเรื่องเล็กขี้ปะติ๋ว แต่หากทำด้วยความใส่ใจ
ไม่มีใครกล้ามองข้ามแน่นอนครับ
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ