“รีบเป็นเบอร์หนึ่งในสายงานตัวเอง
เพื่อเพิ่มโอกาสได้ร่วมงานกับที่หนึ่ง
หรือระดับแนวหน้าในสายงานอื่น”
จากนั้นมันจะเกิดการผสมผสานวิทยายุทธ
เกิดเป็นองค์ความรู้ใหม่และมีช่องทาง
ทำมาหากินไม่รู้จบครับ
มืออาชีพตัวจริงจะมองเห็นมืออาชีพตัวปลอม
ได้รวดเร็วและทะลุปรุโปร่งอย่างไม่น่าเชื่อ
ในขณะเดียวกันมืออาชีพตัวจริงก็ต้องหา
โอกาสออกไปพบปะหรือมีช่องทางได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับมืออาชีพ
คนอื่นด้วยเพื่อไม่ให้เกิดสภาวะความรู้หมดอายุ
หรือหลงรักความคิดหรือสินค้าตัวเองมากเกินไป
จนเกิดอคติกับมุมมองที่แตกต่าง
ถามว่า… ทำอย่างไรจึงจะรู้นะ ว่าคนที่เรา
กำลังร่วมงานหรือคิดจะร่วมงานด้วย
เขาเป็นมืออาชีพหรือเบอร์หนึ่งจริงหรือเปล่า
เคยได้ยินภาษิตจีน “ไม่ร่วมทาง ไม่รู้ใจ” มั้ยครับ
ตัวนี้แหละที่เป็นตัวกรองชั้นดี กล่าวคือ
ลองร่วมงานดูสิครับ จะได้หายข้องใจ
เพราะเมื่อเราลองขอความคิดเห็น
ลองมอบหมายงานหรือลองขอความช่วยเหลืออะไรบางอย่าง มันจะมีทั้งมุมทดสอบความสามารถและมุมน้ำใจแฝงไปด้วยเสมอ
เจ้าคนพวกมีความสามารถแต่ไร้น้ำใจ
เจ้าคนพวกมีน้ำใจแต่ไร้ความสามารถ
ยังไม่เข้าข่ายมืออาชีพเท่าที่ควร เราคบหา
เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางอย่างในระยะสั้นได้
แต่คนพวกที่ “น้ำใจงาม ความสามารถสูง”
รีบล็อคตัวไว้เลยครับ เขาคือกัลยาณมิตร
ได้ร่วมงานก็มีแต่เจริญรุ่งเรือง และอย่าลืมนะ
มันมีกฎแรงดึงดูดที่ให้ข้อคิดไว้
“อยากร่วมงานกับคนดี เราต้องดีโดยเนื้อแท้ก่อน” แล้วมันจะดึงดูดคนดี ๆ เข้ามาในวงโคจร
เริ่มต้นได้เลยนะครับ สักพักพวกคิดไม่ดีกับเรา
จะหายหน้าหายตาไปทีละคนเอง
แค่คิดก็กระชุ่มกระชวยหัวใจทั้งสี่ห้องแล้วครับ
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ