ฝีมือที่ยังไม่โดนพิสูจน์ มันก็เป็นเพียงแค่คำพูด
และทักษะการพูดก็เป็นทักษะที่ทำให้หลายคน
ได้งานทำ เหมือนตอนที่รับคนเข้าทำงานใหม่ ๆ
ซึ่งคัดคนจากการดูใบสมัครและสัมภาษณ์
เบื้องต้น กว่าจะรู้ซึ้งถึงฝีมือก็ต้องให้ผ่านการทดลองงานก่อนโดยอาจกินเวลา 90 ถึง 120 วัน
พอผ่านทดลองงานมันก็แค่ด่านแรกเท่านั้น
เหมือนการที่คู่รักตกลงปลงใจแต่งงานกันหลังจากคบหากันมาระยะหนึ่ง และชีวิตคู่มันก็
เพิ่งจะออกสตาร์ต
คนที่ทำงานด้วยกัน ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน
เป็นแรมปีถึงสัมผัสตัวตนของเพื่อนร่วมงานได้
ซึ่งแบบนี้เราเรียกรู้ลึก พอรู้ลึกก็สามารถวิเคราะห์ได้และนำไปต่อยอดได้ เช่น เจ้านายใช้หลักการPut the right man on the right job.
(วางคนให้ถูกกับงาน)
หากเป็นในชีวิตประจำวันเราก็จะได้แยกแยะ
ว่าคนรอบข้างคนไหนน่าคบบ้าง , ใครอาศัยได้
หรือใครที่อาศัยไม่ได้เลย ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็น
ดังคำกล่าว “คบคนพาล พาลพาไปหาผิด
คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล”
โลกปัจจุบันนี้ไปไวมาก มีแนวโน้มที่คนทั่วไป
จะเป็นลักษณะรู้กว้างซะมากกว่ารู้ลึก
เราเห็นภาพกว้างหลายต่อหลายคนผ่าน
โซเชียลมีเดียเราก็ตัดสินใจซื้อขาย โอนเงิน
ให้เขาแล้ว หรือตัดสินใจคบหาเจรจาด้วย
บทความนี้เลยขอฝากไว้สักหน่อยว่า
จะว่าจ้างก็ดี จะเลือกคู่ค้าก็ดี จะเลือกพันธมิตรหรือหุ้นส่วนก็ดี อย่าดูแค่คำพูดเท่านั้น
แต่ให้ลงลึกไปอีกว่าผลงานของเขาในอดีตที่ผ่านมานั้นเป็นเช่นไร จับต้องได้หรือไม่ ?
ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร
หาไม่แล้วเราก็จะโดนรายล้อมด้วยคนที่
ดีแต่พูด และมารู้ทีหลังว่าไม่ใช่คนดีอย่างที่
แอบอ้างไว้ แบบนี้มันคือสุดยอดแห่งการ
ปวดร้าวหัวใจเลยล่ะครับ
ขอบคุณมากครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ