กฎแห่งกรรม​

“โชคร้าย ไม่ได้มาจากเทวดา ผีสางอะไรที่ไหน
แต่มาจากความประมาท ไม่รอบคอบของบุคคล
นั้นๆเอง” ท่านพุทธทาสภิกขุได้สอนไว้อย่าง
โดนใจยิ่งนักครับ

เราสอบตก​ เพราะ​ เราไม่อ่านหนังสือหรือทำแบบฝึกหัดมากพอครับใช่มั้ย​ หรือไปโทษเพื่อนโต๊ะ
ข้าง​ ๆ​ ที่ไม่ให้ลอกข้อสอบดีล่ะ​ ?

เราผิดหวังในความรัก​ เพราะ​ ศึกษาดูใจกัน
และกันน้อยไปหรือไม่​ หรือไปโทษโชคชะตา
ฟ้าดินดีนะ​ ?

เราทำธุรกิจล้มเหลว​ เข้าข่ายกลุ่มล้มละลาย
เพราะอ่อนวิชาบริหารจัดการ​, เชื่อใจหุ้นส่วน
มากไป, น้อยประสบการณ์​ หรือ​ ไปโทษนักการเมืองและปัจจัยภายนอกอื่นที่ควบคุมไม่ได้
กันดีนะ

สิ่งที่เราต้องปฏิบัติเมื่อความโชคร้ายมาเยือน
คือ​ แยกแยะ​ คิด​และวิเคราะห์ให้ลึกซึ้ง
ถึงต้อตอแห่งปัญหาจริง ๆ พร้อมวิธีแก้ไขและป้องกัน,ไม่ใช่การเที่ยวไปสะเดาะเคราะห์​
หรือแก้ที่ดวงโดยไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
แต่ประการใด

พระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องกฎแห่งกรรม​
ฉันใดฉันนั้นในวงการอุตสาหกรรมก็มีตรรกะ​
เข่นเดียวกัน​ คือ​ input–>process–>output
กล่าวคือ​ อย่าไปถวิลหาผลลัพธ์​ชั้นเลิศ
หากวันนี้ป้อนวัตถุดิบ​ชั้นแย่และกระบวนการ​
ที่ไร้ประสิทธิภาพเข้าไปไม่หยุดหย่อน

ทุกท่านคงพอเข้าใจที่มาที่ไปของโชคร้าย
มากขึ้นแล้วใช่มั้ยครับ​ ส่วนโชคดีนั้นมันจะ
ตามมาเองหลังจากที่ปรับแต่งกระบวนการ​
ใหม่ซะ​ หรือจัดการตั้งแต่ต้นทางให้อยู่หมัดนั่นเอง

ส่วนโชคดีที่มากับความเฮงหรือลาภลอย
อันนี้ผมคงไม่อาจไปแสดงความคิดเห็​นอะไรได้
แล้วทุกท่านล่ะครับ… พรุ่งนี้ตัวไหนเด็ด
ผมไม่ขอรางวัลที่หนึ่ง​หรอก​
แค่เลขท้ายสามตัวงวดเว้นงวดพอครับ
555

ขอบคุณ​ครับ
ธน​บรรณ​ สัมมาชีพ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *