หยุดเผือกแล้วเลือกโฟกัสที่ตัวเอง
“เผือก” เมื่อเป็นคำนาม มันคือพืชหัว
ถือเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตและวิตามินชั้นดี
ต่อร่างกาย, แต่พอเป็นคำกริยาที่ฮิตติดปาก
มันกลายเป็นแปลว่า “สาระแน” หรือเข้าไปยุ่งเรื่องคนอื่นโดยที่ไม่ได้มีใครร้องขอความช่วยเหลือเข้ามานั่นเองครับ
ดูผิวเผินแล้ว งานเผือกเป็นแนวจิตอาสาอย่างหนึ่ง(ประชด) เพราะเจ้าตัวต้องเสียสละความเป็นส่วนตัวและบางสิ่งเช่น เวลา มาเพื่อหาข่าวสารไปเผยแพร่ให้สมาชิกรับฟัง
คนที่ชอบเผือกมาก ๆ หน่อย มักได้รับฉายา
จากสังคมว่าเป็น “จอมเผือก”, “สายเผือก”
“มนุษย์เผือก” ซึ่งชื่อเหมือนจะดูน่ารักนะครับ
แต่หารู้ไม่ว่า ไม่มีใครสบายใจหรือรู้สึกอยากต้อนรับขับสู้กับคนเหล่านี้เลย
หลายครั้งที่เราได้ข่าวคราวใหม่ ๆ จากมนุษย์เผือก แต่มันไม่ใช่แค่รับเท่านั้น เพราะมนุษย์เผือกมักจะขอแลกข่าววงในจากเราด้วย
เช่น ข่าวสารข้ามแผนก, บ้านนี้เป็นอย่างไร
บ้านนั้นเป็นอย่างไร… ฯ ซึ่งดูรวม ๆ แล้วคล้ายคลึงกับ Data center หรืออะไรทำนองนั้น
อ่านมาสักพักแล้ว คงพอเห็นตัว
Job Description ของคนเหล่านี้บ้างใช่มั้ยครับ
แต่สิ่งที่ผมอยากกล่าวต่อ มันเป็นข้อคิดที่มี
ประโยชน์ต่อทุกคนแน่นอน ดังนี้
คนที่ประสบความสำเร็จในด้านต่าง ๆ
เขาลดเวลาไปเผือกเรื่องชาวบ้านให้น้อยลง
และโฟกัสไปที่ตัวเองมากขึ้น เช่น การที่เรา
หยุดเผือกเรื่องดาราคนนั้นเตียงร้าว,
คนนี้คบคนนั้น หรืออะไรที่มันเป็นเรื่องส่วนตัว
ของเขา… มันทำให้เรามีเวลาส่วนตัวมากขึ้น
ไม่ต้องไปคอยส่อง ig ส่อง Facebook ให้
สูญเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
บางคนวิเคราะห์ทรวดทรง องค์เอวเขาไปทั่ว
ส่วนข้อมูลตัวเองกลับไม่เคยสนใจ
น้ำหนักตัวเองกี่กิโลกรัมไม่เคยวัด
รอบเอวเท่าไรไม่เคยรู้
ความดันปกติหรือไม่ ก็จำไม่ได้
ค่า BMI(ดัชนีมวลกาย) .. ยิ่งไม่เคยรู้
เฮ้อ… พิมพ์ไปก็ยาวครับ
ในสถานที่ทำงานก็เช่นกัน หากแต่ละวัน
มาจับกลุ่มถกกันว่า เพื่อนร่วมงานคนนั้น
ท้องกับใคร ? , ลูกคนนี้เรียน มหาลัยไหน มีค่าเทอมพอมั้ย ? เจ๊คนนั้นไปออกรถที่ไหน ผ่อน
เดือนละเท่าไหร่ มีปัญญาจ่ายมั้ย… บลา ๆ ๆ ?
สู้เอาเวลามาคุยเรื่องเพิ่มผลิภาพ(Productivity)
หรือลดความสูญเปล่า (7 wasted)
หรือการทำงานแบบ Lean… ไม่ดีกว่าหรอกรึ ?
ภาษิตบอกไว้ให้ “จงรู้เขา รู้เรา”
อันนี้ผมไม่เถียง และยืนกรานเห็นด้วยเต็มพิกัด
จุดที่น่าสนใจ คือ ยุคสมัยที่ข้อมูลข่าวสาร
มันล้นมือถือหรือมากเกินจำเป็นในแต่ละวัน
ด้วยความปรารถนาดีจึงเชิญชวนให้ฝึกรู้เรา
ให้มากขึ้น และฝึกรู้เขาแบบคัดกรองข้อมูล
ไม่ใช่ด่วนไลค์ ด่วนแชร์
อย่าว่าผมเผือกเลยนะครับ
เราต้องหยุดเผือกเรื่องคนอื่น และเผือกเรื่อง
ของตัวเองให้มากขึ้นแล้วหนทางแห่งความ
สำเร็จมันจะชัดเจนขึ้นแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ
จนวันนึงเส้นชัยได้สัมผัสกับหน้าอกเสียที
ผมหวังดีกับทุกท่านจริง ๆ และจะหวังดีต่อไป
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ