เรามีชีวิตเป็นที่พึ่ง

เรามีชีวิตของเราเองเป็นที่พึ่ง​
บางทีแค่เราไม่ได้​สังเกต​ แล้วก็ดิ้นรนหาที่พึ่งจาก
สิ่งอื่น​ที่มาจากภายนอก​ จนเวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่า
เมื่อหมดที่พึ่งพาแล้วจึงคิดได้

ผมดูคลิปคนพิการแขนขาไม่ครบแต่สร้างผลงาน
ที่โลกตะลึงมากมายหลายวงการ​ ทั้งวงการกีฬา
ที่จัดกีฬาคนพิการ​ขึ้นมาให้ดูชมกันทั่วโลก
ไหนจะวงการดนตรี​ วงการศิลปะ​ ฯ… เยอะนะ

คุณรู้จักนิค​ วูจิซิคใช่มั้ยครับ​… ชายนักสร้างแรง
บันดาลใจชาวออสซี่​ ที่ไร้ทั้งแขนและขาแต่นำพาคนปกติที่ชีวิตขาดพลังได้มีชีวิตนักสู้กันอีกหน

วันนี้ท่านที่รู้สึกห่อเหี่ยว​ ไร้แบตเตอรี่ใจ
ต้องตั้งเป้าชีวิตใหม่ทันที​ อย่าไปรอปีพ.ศ.หน้า

“หากอยากเก่งขึ้นสิบเท่า​
เราต้องทำงานที่มันยากขึ้นสิบเท่า”
หลักการมันง่าย​ ๆ​ อย่างนั้น​ ไม่ใช่ทำตัวหรือวางตัว
เหมือนคนเก่ง​ แต่ไม่ยักกะเอาถ่านสักเรื่อง
ซึ่งคนประเภทนี้มีเยอะในโลกปัจจุบัน

เมื่อเราตระหนักว่าเรามีชีวิตเป็นที่พึ่ง​
เราเริ่มรู้ซึ้งว่าทุกคนก็ต้องพึ่งพาชีวิตตัวเอง
แล้วเราจะไปรบกวนเกาะแข้งเกาะขาเขาทำไม
ลำพังเขาเองอาจมีทุกข์พออยู่แล้วก็เป็นได้

ขอจบแบบไม่มีคำคมตบท้าย
บทความนี้เขียนด้วยใจ​ เอามาฝากกันเช่นเคย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์

ขอบคุณครับ
ธนบรรณ​ สัมมาชีพ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *