“นกไร้ปีกย่อมบินไม่ได้ คนไร้เพื่อนย่อมไม่โต”
เครื่องบินก็ยังต้องอาศัยลมใต้ปีก เมื่อเปรียบ
กับคนแล้วนั้น มันคือแรงสนับสนุนจากคนรอบข้างแทบจะ 360 องศาครับ
เขาเหล่านั้นมีใครบ้าง ?
เริ่มตั้งแต่… กับเจ้านายหรือผู้หลักผู้ใหญ่
เมื่อมีโอกาสได้ไปรับใช้ เราแสดงออกถึง
ความกระตือรือร้นในการทำงานขนาดไหน
และผลงานของเราเข้าตาเขาหรือไม่
ลองหาโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนกับท่านดู
จะได้พัฒนาเร็วขึ้น
กับเพื่อนร่วมงาน หรือลูกน้อง เรามีความใส่ใจ
และรักษาบรรยากาศในการทำงานขนาดไหน
วัฒนธรรมองค์กรเราเป็นแบบทีมหรือแบบ
ครอบครัวก็ลองปรับจูนดู
กับคนในครอบครัว เรารักษาสมดุลได้ดีหรือไม่
เมื่อมีปัญหาเรื่องเงิน เราก็ต้องทำงาน
แต่เมื่อหักโหมงานมากเกินไปก็อาจกระทบ
ต่อความสัมพันธ์ในครอบครัวและลุกลามไปถึง
ปัญหาสุขภาพได้
แม้กระทั่งระดับเจ้าของธุรกิจเองก็ยังต้องอาศัย
ลมใต้ปีกเช่นกัน นั่นคือลูกค้า จริงมั้ยครับ
ไม่มีลูกค้าก็ไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนลูกน้อง
ไม่มีจ่ายค่าเช่า, ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าบลา ๆ ๆ
เคยได้ยินตลกร้ายที่ผมมักเล่ามั้ยครับ
ที่ทำงานสักที่อาจมีพนักงานหลักร้อย
มีแผนก มีฝ่ายรวมกันไม่ถึงสิบ
แต่ดันมีก๊กเป็นร้อย… พูดไปก็เพลียจิต
อยากเติบโตในหน้าที่การงานให้ไว
เริ่มหาเสียงให้ตัวเองบ้าง หาแนวร่วม(หาก๊ก)
ผมไม่ได้บอกให้ไปประจบสอพลอเอาหน้า
แต่ถึงเวลาคับขัน เราควรมีพรรคพวกบ้าง
อย่างน้อยแม้อาจจะไม่รุ่งในเร็ว ๆ นี้
มันก็ยังดีที่มีคนคอยปฐมพยาบาลเรา
ลุยเดี่ยวมันเจ็บ เอาไว้ให้ปีกกล้าขาแข็งค่อย
ว่ากัน… แต่ช่วงที่อะไรยังคลุมเครือ
ไม่รู้ว่าเป็นหมอกจาง ๆ หรือควันหรือฝุ่นกันแน่
ก็อย่าเพิ่งวู่วาม… ใช้เวลานี้สร้างปีกให้กล้า
ขาให้แข็งไว้รอกระแสลมใต้ปีกกันดีกว่าครับ
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ